สายเกาต้องรู้!! ซื้อบ้าน/คอนโดที่เกาหลี ต้องทำอย่างไรบ้าง??
สร้างเมื่อ Mar 17, 2023
안녕하세요~ อันนยองฮาเซโยย ~ ค่าาาา เพื่อนๆ ชาว Genius ทุกคนนน ทักทายมาเป็นภาษาเกาหลีขนาดนี้ รู้แล้วใช่ไหมคะว่าบทความวันนี้น้อง Genie จะเขียนเกี่ยวกับอะไร คริคริ แน่นอนค่ะว่าช่วงนี้ กระแส เกาหลี ฟีเวอร์มาแรงขนาดไหน เพราะฉะนั้นวันนี้น้อง Genie ก็เลยมาชี้แนะ แนวทางการย้ายประเทศ เอ้ยยยย! ไม่ใช่ค่ะ จะพาเพื่อนๆ ไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับการซื้อบ้าน ซื้อคอนโดในประเทศเกาหลีใต้กันค่ะ จะมีความยุ่งยาก หรือ ง่ายดายขนาดไหน ไปรับชมพร้อมๆ กันได้เลยค่าาา
1. ทำความรู้จัก “ประเทศเกาหลีใต้”
ก่อนที่เราจะไปดูการซื้อ - ขาย บ้านและคอนโดที่เกาหลีนะคะ น้อง Genie จะเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับประเทศเกาหลีใต้กันก่อนค่ะ
สำหรับ “ประเทศเกาหลีใต้” ตั้งอยู่บนคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งปัจจุบันถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
- เกาหลีใต้ ซึ่งปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย
- เกาหลีเหนือ ซึ่งปกครองโดยระบอบคอมมิวนิสต์
โดยทั้งสองเขตนี้ จะถูกคั่นกลางด้วยเขตปลอดทหารนั่นเองค่ะ ซึ่งประเทศเกาหลีใต้อยู่ทางตะวันออกของทวีปเอเชีย มีพื้นที่ประมาณ 99,500 ตร.กม. มีประชาทั้งหมด 51 ล้านคนค่ะ และเพื่อนๆ ทราบไหมคะว่า ประชากรเกือบครึ่งอาศัยอยู่ในเขต เมืองหลวง และ ปริมณฑล ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นมหานครที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลกเลยค่ะ
ในส่วนของเมืองหลวงของเกาหลีใต้ คือ กรุงโซล (Seoul) นั่นเองค่ะ ซึ่งถึงจัดเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุด และ มีประชากรอาศัยมากที่สุดกว่า 14 ล้านคนจากจำนวนประชากรทั้งหมดค่ะ
ในส่วนของเมือง และ จังหวัดนะคะ ประเทศเกาหลีใต้ได้แบ่งเป็นเขตการปกครองออกเป็น 8 จังหวัด 6 มหานคร โดยมี 1 นครพิเศษ และ 1 จังหวัดปกครองตนเองพิเศษ ดังนี้ค่ะ
1. 1 นครพิเศษ ได้แก่ กรุงโซล / ซออุล เมืองหลวงของประเทศเกาหลีใต้
2. 6 มหานคร (ซึ่งภาษาเกาหลีจะเรียกว่า กวางยอกชี (광역시)) ได้แก่
2.1. ปูซาน / พูซาน
2.2. แทกู
2.3. อินชอน
2.4. กวางจู / ควางจู
2.5. แทจอน
2.6. อุลซาน
3. 8 จังหวัด (ซึ่งภาษาเกาหลีเรียกว่า โด (도)) ได้แก่
3.1. คยองกี - โด
3.2. คังวอน - โด
3.3. คยองซังบุก - โด
3.4. คยองซังนัม - โด
3.5. ชอนลาบุก - โด
3.6. ชอนลานัม - โด
3.7. ชุงชองบุก - โด
3.8. ชุงชองนัม - โด
4. 1 จังหวัดปกครองตนเองพิเศษ ได้แก่ เชจู-โด ซึ่งเป็นเกาะทางตอนใต้สุดของประเทศนั่นเองค่ะ
นอกจากนี้ยังมีชื่อหน่วยย่อยลงไปอีก ตามแต่ละเขตการปกครอง ซึ่งจะจะเรียกว่า “เมือง” หรือ
“ชี (시)” นั่นเองค่ะ
2. ประเภทที่อยู่อาศัยใน “ประเทศเกาหลี”
สำหรับประเภทที่อยู่อาศัยในเกาหลีนะคะ น้อง Genie ต้องบอกว่ามีให้เลือกหลากหลายประเภทมาก ซึ่งวันนี้น้อง Genie นำมาให้เพื่อนๆ ได้เลือกชมถึง 6 แบบด้วยกัน ซึ่งจะมีแบบไหนบ้างนั้น ไปชมกันเลยค่ะ
1. บ้านฮันนก (한옥) หรือ บ้านเกาหลีแบบดั้งเดิม
บ้านเกาหลีแบบดั้งเดิม หรือ บ้านฮันนก (한옥) นะคะ ภายนอกจะมีเสาต้นใหญ่ หลังคาจะมุงด้วยกระเบื้องที่สวยงาม โดยชายคาจะยกขึ้นเล็กน้อย โครงสร้างทั้งหมดจะทำมาจากไม้ ส่วนตัวบ้านนั้นทำมาจากดินค่ะ
ซึ่งบ้านเกาหลีแบบดั้งเดิม หรือ บ้านฮันนก (한옥) ที่มีอายุกว่า 600 ถือว่าเป็นบ้านฮันนกที่เก่าแก่ที่สุดนั้นอยู่ที่ เมืองอาซาน จังหวัดชุงนัม โดยจะมีชื่อว่า “แมงชีแฮงดัน (맹씨행단)” เพื่อนสามารถแวะไปเที่ยวชมได้นะคะ
ขอบคุณภาพจาก aboutchun
สำหรับ บ้านเกาหลีแบบดั้งเดิม หรือ บ้านฮันนก (한옥) จะมีจุดเด่นที่สามารถบ่งบอกได้ถึงความดั้งเดิม 4 จุด ด้วยกันดังนี้ค่ะ
1. ใช้โครงสร้างเป็นไม้ และ ใช้วัสดุธรรมชาติ
อย่างที่กล่าวไปแล้วนะคะว่าโครงสร้างของ บ้านฮันนก (한옥) จะใช้เป็นไม้ ซึ่งส่วนที่ใช้ไม้เป็นส่วนประกอบจะมีบริเวณ หลังคา ผนัง เสา และฐานค่ะ กล่าวคือ ในการสร้างบ้าน คนเกาหลีจะสร้างงฐานหิน เพื่อป้องกันความชื้นจากดินแล้วก็จะตั้งเสาไม้ จากนั้นจะใช้ดินเพื่อมาเติมช่องว่าง ทำให้เกิดเป็นผนังที่ทำมาจากดินค่ะ จากนั้นจะวางคานไว้บนเสาเพื่อเชื่อมระหว่างเสาและวางคานค้ำหลังคาเพื่อทำหลังคานั่นเองค่ะ
ขอบคุณภาพจาก ที่เกาหลีมีอะไร.blogspot
2. มีพื้นไม้และมีอนดล (온돌)
สำหรับบ้านเกาหลีแบบดั้งเดิม หรือ บ้านฮันนก (한옥) จะมีการใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านที่เรียกว่า อนดล (온돌) หรือ อุปกรณ์ที่ทำให้พื้นห้องร้อน นั่นเองค่ะ ซึ่งอนดล (온돌) นั้นจะชวยทำให้พื้นบ้านอุ่นในช่วงเวลาหน้าหนาว และยังช่วยทำให้เย็นสบายในช่วงหน้าร้อนด้วยนะคะ โดยวิธีการทำให้พื้นห้องร้อนนั้นจะมีกรรมวิธีตามรูปด้านล่างเลยค่ะ
ขอบคุณภาพจาก ที่เกาหลีมีอะไร.blogspot
แต่ในปัจจุบันนี้ได้ยกเลิกกระบวนการนี้ออกไปแล้วค่ะ เนื่องจากมีความยุ่งยาก และ อันตราย โดยได้เปลี่ยนจากการใช้ฝืน มาเป็นท่อน้ำร้อนใต้พื้นเพื่อให้ความอบอุ่นดังภาพด้านล่างค่ะ
ขอบคุณภาพจาก Antiquealive
3. สะท้อนถึงอิทธิพลของลัทธิขงจื๊อ และพื้นที่มีการถูกแบ่งตามชนชั้น
เนื่องจากในสมัยโชซอนนั้นยังมีการแบ่งชนชั้น ทำให้การสร้างบ้านทั้งขนาด และ การตกแต่งของชาวบ้านธรรมดา และ ขุนนางมีความแตกต่างกันมากเลยค่ะ
และด้วยในสมัยนั้นได้รับอิทธิพลมาจาก ลัทธิของขงจื๊อ ภายในบ้านนั้นจะมีเอกลักษณ์ของ ขงจื๊อ แยกไว้เป็น 3 ประเภทดังนี้ค่ะ
- อันแช (안채) สำหรับผู้หญิงพักอาศัย
- ซารังแช (사랑채) สำหรับผู้ชายไว้พักอาศัย ซึ่งจะเป็ฯห้องระดับที่สูงสุดแล้วค่ะ
- แฮงรังแช (행랑채) สำหรับข้ารับใช้ และ บริวานพักอาศัย
ขอบคุณภาพจาก ที่เกาหลีมีอะไร.blogspot
4. แท่นบูชาบรรพบุรุษ (사당)
จุดเด่นสุดท้ายคือ ชาวเกาหลีจะมี แท่นบูชาบรรพบุรุษ ซึ่งจะถูกสร้างไว้ด้านในบ้าน หรือ ด้านตะวันออกของบ้านใกล้กับห้องซารังแช รวมไปถึงจะมีการจัดพิธีบูชาบรรพบุรุษถึง 4 รุ่นเลยค่ะ
2. อพาร์ทเมนต์ หรือ อาพาถึ (아파트)
ขอบคุณภาพจาก edaily
สำหรับอพาร์ทเมนต์ในเกาหลีนะคะ ชาวเกาหลีจะเรียกว่า อาพาถึ (아파트) ค่ะ จะมีลักษณะคล้ายๆ กับคอนโดมิเนียมบ้านเราเลยค่ะ คือ จะเป็นที่อยู่อาศัยแนวสูง หรือ คอนโด High rise แบบบ้านเราเลยค่ะ หลายคนอาจจะสงสัยใช่ไหมคะว่า แล้วในเกาหลี ไม่มีคอนดดมิเนียมหรือ คำตอบคือมีค่ะ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะตั้งอยู่ ริมทะเล ชายหาด หรือตามแหล่งท่องเที่ยวคล้ายๆ กับบ้านพัก หรือ คอนโดตากอากาศนั่นเองค่ะ
ความแตกต่างของคอนโดมิเนียมในไทย กับ ในเกาหลีจะแตกต่างกันที่ขนาดพื้นที่ค่ะ ซึ่งที่เกาหลีขนาดห้องจะเริ่มต้นตั้งแต่ 40 - 200 ตร.ม. จะมีห้องนอนประมาณ 2 - 4 ห้องเลยค่ะ จึงทำให้การอยู่อาศัยไม่อึดอัด เนื่องจากว่าคนเกาหลีนิยมอยู่กันเป็นครอบครัว พ่อ แม่ ลูก ซึ่งภายในห้องๆ นึงนั้นจะถูกจัดสรรแบ่งเป็นสัดส่วนทั้ง ห้องนอน, ห้องครัว, ห้องรับแขก, ห้องแต่งตัว, ระเบียง จะถูกแยกออกมาเป็นระเบียบมากนั่นเองค่ะ
3. ยอลลิปจูแทก (연립주택) หรือ Town House
ขอบคุณภาพจาก propholic
หากอพาร์ทเมนต์ หรือ อาพาถึ (아파트) เปรียบเสมือนคอนโด High rise ยอลลิปจูแทก (연립주택) ก็เปรียบเสมือนคอนโด Low Rise เลยค่ะ เนื่องจากว่า ยอลลิปจูแทก จะมีลักษณะคล้ายๆ กับ อาพาถึ (아파트) เลยค่ะ ทั้ง Layout ภายในห้อง การจัดวาง แตกต่างกันแค่ที่ความสูงของจำนวนชั้นเท่านั้นค่ะ
ขอบคุณภาพจาก propholic
4. ออฟฟิศเทล (Officetel)
ขอบคุณภาพจาก sciencedirect
ในส่วนของออฟฟิศเทล (Officetel) ซึ่งคนเกาหลีจะเรียกว่า โอ-พิ-ซือ-เทล (오피스텔) นั่นเองค่ะ ซึ่งต้องบอกว่า ออฟฟิศเทล กำลังจะกลายเป็นที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเกาหลีใต้เลยค่ะ เนื่องจากว่ามีวิว และ อยู่ในทำเลที่ดีนั่นเองค่ะ
ซึ่งลักษณะของ ออฟฟิศเทล (Officetel) จะเป็นตึกที่มีความสูงประมาณ 10 - 20 ชั้น จุดประสงค์หลักๆ ก็ตามชื่อเลยค่ะ สามารถเช่า หรือ ซื้อเพื่อมาทำเป็น "ออฟฟิศ" หรือสามารถเอามาปรับปรุงตกแต่งให้เป็นที่อยู่อาศัยก็ได้เช่นกัน
ออฟฟิศเทล (Officetel) นะคะส่วนใหญ่แล้วจะถูกสร้างให้เป็นแบบอาคาร Mixed Use ค่ะ ซึ่งจะมีทั้งโครงการอื่นๆ รวมอยู่ด้วย รวมไปถึงมี โรงแรม หรือออฟฟิศ ร้านอาหาร คลินิก เป็นต้นค่ะ
ขอบคุณภาพจาก cheaphouseandgarden
ในส่วนของพื้นที่ใช้สอยของ ออฟฟิศเทล (Officetel) นะคะ จะมีพื้นที่เริ่มต้นประมาณ 40 ตร.ม. โดยส่วนใหญ่จะเป็นในรูปแบบห้อง Studio ค่ะ แต่จะมีการแบ่งโซนห้องครัว ห้องนอน และ ห้องน้ำให้เป็นสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งน้อง Genie มองว่าเหมาะมากสำหรับพักอาศัยคนเดียว หรือ อยู่กันเป็นคู่ค่ะ
ในส่วนของข้อเสียสำหรับ ออฟฟิศเทล (Officetel) นะคะ คือจะไม่มีระเบียงให้นั่นเองค่ะ แต่น้อง Genie ถือว่าไม่เป็นข้อเสียเลยทีเดียวนะคะ เพราะถึงไม่มีระเบียงมาให้ ออฟฟิศเทล (Officetel) จะให้มาเป็นกระจกบานใหญ่ที่สามารถเปิดหน้าต่าง และ รับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่เลยค่ะ นอกจากนี้ยังช่วยแต่งห้องให้สวยงามมากกว่าเดิมอีกด้วยค่ะ ><
5. บ้านเดี่ยว
สำหรับบ้านเดี่ยวในเกาหลีนะคะ ส่วนใหญ่แล้วก็จะมีลักษณะเหมือนกับบ้านเราเลยค่ะ คือจะมี
2 - 3 ชั้น และมีขนาดใหญ่มากๆ ซึ่งอย่างที่น้อง Genie เคยบอกไปแล้วว่าหากเป็นบ้านแนวราบ จะมีจุดเด่นคือ ท่อน้ำร้อนใต้พื้นเพื่อให้ความอบอุ่นนั่นเองค่ะ
แต่ในปัจจุบันคนเกาหลีส่วนน้อย ที่จะเลือกอยู่แบบบ้านเดี่ยว เนื่องจากว่า มีราคาแพงมาก กว่า
1 พันล้านวอนหรือประมาณ 30 ล้านบาทนั่นเองค่ะ ทำให้คนเกาหลีที่เป็นชนชั้นกลางส่วนใหญ่เลือกไปอยู่ อาพาถึ (아파트) หรือ ออฟฟิศเทล (Officetel) นั่นเองค่ะ
และเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้มีสำนักข่าวเปิดเผยว่า นักร้องสาวชาวไทยอย่าง
ลิซ่า ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ก็เพิ่งจะซื้อบ้านวิลล่าสุดหรูในย่านซองบุกดง กรุงโซลไปหมาดๆ มูลค่ากว่า 7.5 พันล้านวอน หรือประมาณ 208 ล้านบาทนั่นเองค่ะ
6. Goshiwon (โคชิวอน)
ขอบคุณภาพจาก goshipages
มาถึงที่พักแบบสุดท้ายนะคะ ซึ่งต้องบอกว่าเป็นที่พักที่มีขนาดเล็กมากกก!! ซึ่งภายในห้องนั้นจะรวมทุกอย่างให้อยู่ภายในห้องเดียว ซึ่งจะมีโซนนั่งทำงานให้มาหนึ่งชุด ตู้เย็นเล็กๆ ห้องน้ำและห้องอาบน้ำจะอยู่ภายในห้องเดียวกันเลย ไม่มีแยกโซนเปียก และ โซนแห้งให้นะคะ ซึงบางที่จะมีขนาดเล็กมาก ไม่มีพื้นที่ยืดเส้นยืดสาย
สำหรับ Goshiwon นะคะ จะนิยมในหมู่คนที่มีรายได้น้อย กลุ่มนักเรียน นักศึกษาในเมืองใหญ่ๆ อย่าง Seoul เนื่องจากยังไม่มีรายได้มากพอที่จะเช่า อาพาถึ (아파트) หรือ ออฟฟิศเทล (Officetel) นั่นเองค่ะ
ขอบคุณภาพจาก อาจุมม่าบ้าเกาหลี
3. ซื้อบ้านที่เกาหลี ต้องเสีย “ภาษี” เท่าไหร่
มาถึงในส่วนของ “ภาษี” กันบ้างนะคะ สำหรับเพื่อนๆ ที่สงสัยว่า หากเราซื้อบ้านที่เกาหลีแล้ว เราจะเสียภาษีเท่าไหร่ จะต้องจ่ายแพงไหม น้อง Genie หาคำตอบมาให้แล้วค่ะ
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ “ภาษี” ที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ในเกาหลีกันก่อนนะคะ ซึ่งจะมีด้วยกัน 4 แบบด้วยค่ะ
- Registration Tax คือ ภาษีการจดทะเบียนอสังหาริมทรัพย์ (ประมาณ 3% ของราคาซื้อขาย)
- Acquisition Tax คือ ภาษีการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ (ประมาณ 2% ของราคาซื้อขาย)
- Education Tax คือ ภาษีเพื่อการศึกษา (ประมาณ 20% ของ Registration Tax) และ
Stamp duty ค่าอากรแสตมป์ (ประมาณ 0.2% ของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์)
- Special tax for rural development หรือ Agriculture and Fisheries Tax (ประมาณ 10% ของ Acquisition Tax)
นอกจากภาษีที่เราจะต้องจ่ายตามด้านบนแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายยิบย่อยอีก 1 ตัวคือ Housing Bonds ค่ะ ซึ่งตอนซื้อบ้าน รัฐบาลบังคับให้ผู้ซื้อบ้านซื้อพันธบัตรที่อยู่อาศัยที่มีมูลค่าเท่ากับมูลค่าประมาณ 5% ของราคาบ้านอีกด้วยค่ะ แต่พันธบัตรตัวนี้สามารถขายได้ โดยจะลดราคาประมาณ 10% ของราคาหน้าตั๋ว เพื่อเอาเงินออกมาใช่ก่อนจะหมดอายุสัญญาได้ค่ะ
นอกจากนั้นยังมี Legal Fee ซึ่งเป็นค่าทนาย โดยปกติการซื้อขายบ้านที่เกาหลีจะต้องมีทนายมาเกี่ยวข้องด้วยค่ะ โดยค่าว่าจ้างทนายจะอยู่ที่ 100,000-250,000 วอนต่อชั่วโมง หรือ 3,000-7,500 บาท โดยเมื่อเทียบกับมูลค่าบ้านแล้ว ค่าทนายที่ต้องจ่ายจะตกอยู่ที่จะอยู่ที่ 0.25% – 1% ของมูลค่าซื้อขายบ้านนั่นเองค่ะ
และสุดท้ายจะเป็น Real Estate Agent’s Fee หรือ ค่าธรรมเนียมของนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ค่ะ เนื่องจากว่าโดยทั่วไปแล้วนั้นเราจำเป็นที่จะต้องให้นายหน้าดูเรื่องภาษี ค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งนายหน้าจะมีความชำนาญ และ แม่นยำกว่าเรามากค่ะ ซึ่งค่าธรรมเนียมนั้นขึ้นอยู่กับมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ ปกติแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 0.2%-0.9% ของราคาที่อยู่อาศัยค่ะ
แต่! แต่! ยังไม่จบเพียงเท่านี้ค่ะ ในแต่ละปีนั้นเพื่อนๆ ยังต้องเสียภาษีที่อยู่อาศัย ซึ่งเสียในอัตราก้าวหน้านะคะ โดยเรทเริ่มที่ 0.1% ไปจนถึง 0.4% ขึ้นอยู่กับมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ค่ะ
4. ขั้นตอนซื้อบ้านที่เกาหลี
สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ต้องการซื้อบ้าน หรือ คอนโดที่เกาหลีนะคะ น้อง Genie ก็มีขั้นตอนในการซื้อบ้านแบบคร่าวๆ มาฝากกันค่ะ ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น ตามมาเลยค่าาา
1. ถามใจตัวเอง
สำหรับข้อแรกเลยนะคะ น้อง Genie อยากให้เพื่อนๆ นั้นถามใจตัวเองดูก่อน ว่า เราต้องการซื้อบ้าน หรือ ซื้อคอนโดที่เกาหลีเพราะอะไร เช่น อยากมาเรียนต่อที่เกาหลี หรือ ซื้อเพื่อลงทุน เมื่อเรามั่นใจกับเป้าหมายแล้ว ลำดับต่อไปจะทำให้เราเลือกทำเล และ ดูงบประมาณที่เหมาะสมนั่นเองค่ะ
การซื้ออสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าจะที่ไหน ก็จำเป็นที่จะต้องใช้เวลาศึกษาหาข้อมูล พิจารณาตัวเลือกที่เราต้องการมากที่สุดค่ะ
2. ลงสำรวจพื้นที่
แน่นอนค่ะว่าหากเราได้ทำเล และโครงการที่ต้องการ เราจำเป็นจะต้องลงพื้นที่สำรวจด้วยตัวเอง ดูความพร้อมของสถานที่ แปลนห้องเป็นแบบที่เราต้องการไหม มีส่วนไหนที่ต้องซ่อมแซมหรือเปล่า พื้นที่ทำเลบริเวณรอบๆ มีสภาพความเป็นอยู่เช่นไร เมื่อเราไปเห็นของจริง ก็จะทำให้เราตัดสินใจง่ายขึ้นกว่าการดูแค่รูปภาพค่ะ
3. ดำเนินการเรื่องเอกสาร
อย่างที่น้อง Genie บอกไปแล้วว่า การซื้ออสังหาฯ ในเกาหลี หรือ ซื้ออสังหาฯ ในต่างแดนนั้น เราควรดำเนินการผ่านนายหน้า หรือ เอเจนซี่ ที่เราสามารถไว้ใจได้ เพราะว่าในเรื่องของ เอกสารต่างๆ ทั้งเงินมัด สัญญาที่ขึ้นกับการตกลงทั้ง 2 ฝ่าย และหากว่าเราต้องการกู้ธนาคารเพื่อซื้อบ้าน หรือ คอนโด ก็จะมีขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับธนาคารเข้ามาอีก ในฐานะที่เราเป็นชาวต่างชาติ อาจจะไม่รู้กฎ หรือระเบียบมากนัก ดังนั้นปรึกษาเอเจนซี่ หรือ ผู้เชี่ยวชาญจะดีกว่าค่ะ
4. ถึงเวลาโอนกรรมสิทธิ์
เมื่อเดินทางมาถึงขั้นตอนนี้แล้ว เราต้องตรวจสอบบ้าน และ ชำระเงินก้อนสุดท้ายก็เป็นอันเสร็จสิ้น เราสามารถย้ายเข้ามาอยู่ได้เลยค่ะ สำหรับการย้ายเข้าไปอยู่นั้น น้อง Genie แนะนำให้เพื่อนๆ ติดต่อบริษัทย้ายบ้านที่ชำนาญการมาย้ายให้จะสะดวกกว่าค่ะ เนื่องจากว่าที่เกาหลีส่วนใหญ่แล้วจะขนของกันผ่านหน้าต่างโดยสายพาน จะอยู่ชั้นสูงแค่ไหนก็ไม่กลัวค่ะ สะดวกกว่าการใช้ลิฟต์ขนของอีกค่ะ
ท้ายที่สุดนี้น้อง Genie อยากจะแนะนำให้เพื่อนๆ ศึกษาคุณสมบัติหรือข้อกำหนดทางกฎหมายที่ระบุเกี่ยวกับชาวต่างชาติที่มีสิทธิซื้ออสังหาริมทรัพย์ในเกาหลี เพราะหากพลาดเพียงจุดเดียว อาจจะทำให้เราเสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา หนักสุดอาจจะเป็นการทำผิดกฏหมายก็ได้ค่ะ ดังนั้น ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่จะให้คำตอบที่ถูกต้องกับเราได้นะคะ
5. แนะนำ DEV. ในเกาหลี
สุดท้ายน้อง Genie อยากจะฝาก Developer ของประเทศเกาหลีทั้ง 6 บริษัทค่ะ ซึ่งแต่ละเจ้าก็มีความชำนาญในการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ จะมีบริษัทไหนบ้างไปดูกันเลยค่ะ
บริษัท HYOSUNG CORPORATION เป็นกลุ่มบริษัทในเครือของเกาหลี ซึ่งครอบคลุมอุตสาหกรรมเคมี เครื่องจักรอุตสาหกรรม ไอที การค้า และการก่อสร้างค่ะ ในส่วนของโครงการก่อสร้าง บริษัทมีความเชี่ยวชาญในด้านที่อยู่อาศัย ธุรกิจและพาณิชยกรรม รวมถึงโครงการโยธาและ SOC
บริษัท DONGBU CORPORATION เป็นบริษัทก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกที่มีสำนักงานใหญ่ในกรุงโซล บริษัทมีความเชี่ยวชาญในอาคารสำนักงาน โรงพยาบาล สถานที่เล่นกีฬา อาคารการศึกษา และอพาร์ตเมนต์ นอกจากนี้ ยังทำสัญญาโครงการวิศวกรรมโยธา เช่น เขื่อน อุโมงค์ รถไฟใต้ดิน ท่าเรือ และสิ่งอำนวยความสะดวกด้านน้ำประปาอีกด้วยค่ะ
บริษัท DAELIM CORPORATION เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของเกาหลีในกลุ่มบริษัท DL Holdings ซึ่งมีสาขาทั่วโลกและมีสำนักงานใหญ่ในกรุงโซล เปิดให้บริการด้านวิศวกรรมในการพัฒนาและออกแบบเครื่องจักรก่อสร้างและสนามไฟฟ้า พร้อมนำเสนอบริการให้คำปรึกษาและการก่อสร้างที่ครอบคลุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่อยู่อาศัย ธุรกิจ สิ่งอำนวยความสะดวกเชิงพาณิชย์และลอจิสติกส์
บริษัท BOOYOUNG GROUP เป็นหนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดในเกาหลี และดำเนินธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงโซล หนึ่งในโครงการที่มีความทะเยอทะยานที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาคือ Dongtan New Town ซึ่งเป็นชุมชนการวางแผนระดับโลกในเขตเมืองทางตอนใต้ของเกาหลี ได้รับการออกแบบให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจสำหรับการวิจัย การพัฒนา และการส่งออก และสามารถเข้าถึงได้โดย KTX ภายใน 20 นาที
นอกจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างแล้ว บูยัง ยังบริหารโรงแรมรีสอร์ทระดับนานาชาติหลายแห่ง บริษัทให้บริการโทรคมนาคม และเป็นเจ้าของธนาคารในกัมพูชาและลาวอีกด้วยค่ะ
บริษัท SHINYOUNG GREENSYS เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ การจัดการสินทรัพย์ ที่ปรึกษาการลงทุน วิศวกรรมโยธา และสิ่งทอ มีสำนักงานใหญ่ในกรุงโซล ในด้านผลประโยชน์ของธุรกิจก่อสร้างนั้น ShinYoung Greensys เชี่ยวชาญในด้านพาณิชยกรรม ที่พักอาศัย มิกซ์ยูส และเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์
6. HINES
บริษัท HINES เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับนานาชาติ บริหารจัดการ และวิศวกรรม โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เท็กซัส แต่ก็มีสาขาที่กรุงโซลด้วยเช่นกัน หน่วยงานบริการบำนาญแห่งชาติของเกาหลีใต้ (NPS) และ Hines เพิ่งทุ่มเงิน 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐสำหรับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศและระหว่างประเทศในภาคส่วนการใช้งานแบบผสมผสาน ที่พักอาศัย สำนักงาน และโลจิสติกส์ในตลาดที่มีอุปสรรคในการเข้าสู่ตลาดสูง
เป็นอย่างไรบ้างคะ กับการซื้อบ้านในเกาหลีที่นำมาฝากกันในวันนี้ ซึ่งส่วนตัวน้อง Genie มองว่าหากเรามีเงินมากพอในระดับนึง การซื้ออพาร์ทเมนต์ในเกาหลีก็เป็ฯอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ ซึ่งเราสามารถซื้อลงทุนก็ได้ หรือจะซื้อเพื่ออยู่อาศัยก็ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เพื่อนต้องอย่าลืมศึกษากฏหมาย และ ข้อกำหนดของชาวต่างชาติที่จะเข้าไปซื้ออสังหาฯ ในเกาหลีกันก่อนคะ เพื่อความปลอดภัย
เพื่อนๆ คนไหนที่กำลังมองหาบ้าน หรือคอนโดที่สร้างเสร็จพร้อมตกแต่ง และสามารถเข้าอยู่ได้เลยไม่ควรพลาดเว็บไซต์นี้ค่ะ www.genie-property.com ตัวช่วยง่ายๆในรูปแบบ VR Tour ที่จะทำให้เพื่อนๆ ประหยัดเวลา แถมได้เห็นห้องจริง โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาออกไปดูหลายๆ ที่ เว็บนี้ตอบโจทย์เพื่อนๆ แน่นอนค่ะ
และเพื่อเป็นกำลังใจให้น้อง Genie เพื่อนๆ สามารถเข้ามาพูดคุย หรือกดติดตามข่าวสารดีๆเกี่ยวกับแวดวงอสังหาฯ และ ไลฟ์สไตล์กันได้ผ่านทางช่องทางด้านล่างนี้เลยค่าาา
LINE: @genie-property.com
FACEBOOK: Genie-Property.com
EMAIL: sales@genie-property.com
CALL CENTER: 093-232-9888,064-931-8666
Website : www.genie-property.com
บทความที่น่าสนใจ
สาวก “Minimal” พลาดไม่ได้!! รวม ไอเดีย และ ไอเท็มเด็ดที่ไม่ควรพลาด!!
ถ้ายังไม่รู้ 7 ข้อนี้!! อย่างเพิ่ง “รีโนเวทคอนโด”
ก่อนซื้อคอนโดต้องรู้!! “4 ประเภทห้องคอนโด” ต่างกันอย่างไร
ขอบคุณข้อมูลจาก