เนรมิตบ้านเก่า ให้ใหม่ทันใจด้วย สินเชื่อ Renovate บ้าน
สร้างเมื่อ Aug 9, 2022
น้อง Genie เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนเมื่ออาศัยอยู่บ้านหลังเดิมมาสักระยะหนึ่งแล้วนั้น อาจจะมีความคิดที่อยากจะซ่อมแซม ต่อเติมบ้านกันเป็นเรื่องธรรมดา แต่อาจจะติดปัญหาหลายอย่าง โดยเฉพาะในเรื่องของงบประมาณที่ต้องบอกว่า “ไม่สามารถตั้งงบไว้ได้ตายตัว” แน่ๆ เพราะฉะนั้นวันนี้น้อง Genie จะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับ “สินเชื่อ Renovate บ้าน” ซึ่งคุณสมบัติของผู้ขอสินเชื่อต้องเป็นอย่างไร ต้องเตรียมตัวอย่างไรติดตามได้ที่บทความนี้ค่ะ
1. เหตุผลที่ต้อง “Renovate บ้าน”
อย่างที่น้อง Genie กล่าวไปแล้วเบื้องต้นนะคะว่าเราอาจจะมีความคิดที่อยากจะซ่อมแซม ต่อเติมบ้าน หรือ อยากจะปรับบ้านให้เป็นไปตามสไตล์ของเรา แต่อีกส่วนหนึ่งก็จะมาจากสาเหตุหลักๆ ซึ่งจะสามารถแยกเป็นหัวข้อได้ดังนี้ค่ะ
- Renovate บ้านเพื่อให้ได้บ้านใหม่ที่สวยขึ้น
หรือพูดง่ายๆ ว่าบ้านที่เราอาศัยอยู่นั้นเริ่มมีสภาพที่เก่า หรือทรุดโทรมตามกาลเวลานั่นเองค่ะ ซึ่งการรีโนเวทก็จะมีตั้งแต่การปรับปรุงโครงสร้าง ไปจนถึง การตกแต่งใหม่ทั้งหลัง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าบ้านของเราเก่า และ ทรุดโทรมแค่ไหนนั่นเองค่ะ
- Renovate บ้านเพื่อให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น
สำหรับข้อนี้จะเป็นในส่วนของเพื่อนๆ ที่อยากจะขายบ้านหลังเดิม เพื่อให้ได้กำไร หรือส่วนต่างที่เยอะขึ้นค่ะ เพราะการขายบ้านหลังเดิมที่ค่อนข้างทรุดโทรม หรือ ไม่มีการต่อเติมอะไรมากจะขายออกยาก หรือทำให้ขาดทุนนั่นเองค่ะ ดังนั้นการที่เรารีโนเวทบ้านให้สวยงามน่าอยู่ก่อนที่จะทำการขาย จะเป็นโอกาสในการเพิ่มกำไร หรือ ส่วนต่างให้สูงขึ้นนั่นเองค่ะ
- Renovate บ้านเนื่องจากเกิดเหตุสุดวิสัย
ในส่วนของข้อนี้นะคะ การรีโนเวทบ้านอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุทางธรรมชาติ ที่อาจจะเป็นพายุฝนฟ้าคะนอง หรืออัคคีภัย ซึ่งการรีโนเวทในส่วนของข้อนี้สำคัญมากๆ เลยค่ะ เนื่องจากเราไม่ทราบว่ามีส่วนไหนของบ้านที่สึกหรอไปบ้างแล้ว โดยเฉพาะงานโครงสร้างนั่นเองค่ะ
2. การ Renovate บ้าน มีกี่ประเภท
สำหรับการรีโนเวทบ้านนะคะ จะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กรณีหลักๆ ดังนี้ค่ะ
2.1. กรณีของการซ่อมแซม หรือ ปรับปรุงโครงสร้างอาคาร
ในกรณีนี้จะเหมาะกับเพื่อนๆ ที่ต้องการซ่อมโครงสร้างที่รวมถึงการทุบและสร้างใหม่ แต่ยังไม่ถึงขั้นที่จะต้องรื้อทั้งหลังนะคะ เช่น เสาบ้านร้าว บ้านทรุด หรือ รั้วบ้านพัง ฯลฯ ซึ่งกรณีนี้จะต้องจ้างช่าง หรือ ผู้รับเหมาที่มีความเชี่ยวชาญ และจะต้องไปดำเนินเรื่องกับทางราชการ โดยกรณีนี้จำเป็นที่จะต้องใช้เงินก้อนใหญ่ในการดำเนินการสร้างนั่นเองค่ะ
2.2. กรณีของการปรับปรุงเล็กน้อย หรือ ซ่อมแซมเฉพาะจุด
สำหรับกรณีนี้นะคะ เป็นการซ่อมแซมส่วนที่เสียหายเพียงเล็กน้อย เช่น การซ่อมพื้นแค่จุดเล็กๆ ซ่อมก๊อกน้ำ เพดานรั่วซึม ปูกระเบื้องใหม่ หรือเปลี่ยนโถสุขภัณฑ์ ฯลฯ ซึ่งการซ่อมแซมแบบนี้นั้นจะใช้เงินส่วนน้อย และยังสามารถทยอยทำได้ทีละอย่างนั่นเองค่ะ
ซึ่งจาก 2 กรณีที่กล่าวมานั้นเพื่อนๆ จำเป็นที่จะต้องพิจารณาให้ดีก่อนว่า การที่เราจะรีโนเวทบ้านนั้น เราจะต้องปรับเปลี่ยนอะไร ตรงไหนบ้าง หรือถ้าให้ชัวร์ที่สุดน้อง Genie แนะนำว่าควรให้ช่าง หรือ ผู้รับเหมามาประเมินดีกว่าค่ะ เพื่อที่จะได้ความคุ้มค่า และ การตัดสินใจี่ชัวร์กว่านั่นเองค่ะ
ซึ่งรูปแบบของสินเชื่อในการ Renovate บ้านนั้นจะแบบออกได้ดังนี้ค่ะ
3. สินเชื่อ Renovate บ้าน มีกี่ประเภท
3.1. สินเชื่อ Renovate บ้านแบบวงเงินกู้ระยะยาว (Loan)
สำหรับสินเชื่อ แบบวงเงินกู้ระยะยาว (Loan) นะคะจะมีระยะเวลาในการผ่อนชำระที่ยาวนานประมาณ 5 ปี - 10 ปีค่ะ ซึ่งเหมาะแก่การกู้เพื่อมารีโนเวทบ้านที่มีค่าใช้จ่ายสูง ดอกเบี้ยต่ำ และ มีระยะเวลาในการผ่อนชำระที่นานอีกด้วยค่ะ แต่การขอสินเชื่อนี้มีข้อจำกัดคือ “จะต้องใช้เงินตามที่ระบุไว้ในสัญญาเท่านั้นค่ะ
3.2. สินเชื่อ Renovate บ้านแบบวงเงินกู้เกินบัญชี (O/D)
สำหรับสินเชื่อ แบบวงเงินกู้เกินบัญชี (O/D) นะคะจะเป็นการเบิกเงิน หรือสั่งจ่ายผ่านเช็คได้ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องมีเงินในบัญชี ซึ่งการคิดอัตราดอกเบี้ยจะคิดตามส่วนต่างของระยะเวลาที่เราใช้ประมาณ 5-15 ปีนั่นเองค่ะ
โดยสินเชื่อนี้มีความยืดหยุ่นในการใช้เงินได้มากกว่า สินเชื่อแบบวงเงินกู้ระยะยาว (Loan) สามารถนำเงินส่วนนี้ไปใช้ทำอะไรก็ได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมแซมบ้าน ซื้อเฟอร์นิเจอร์ หรือซื้อของตกแต่งบ้านอย่างอื่น แต่เนื่องจากว่า สินเชื่อวงเงินกู้เกินบัญชี (O/D) นั้นไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นสินเชื่อ Renovate บ้านโดยเฉพาะ จึงมีดอกเบี้ยที่สูงมากๆ หากเพื่อนๆ ยื่นขอสินเชื่อตัวนี้ อาจจะต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยที่แพงกว่าสินเชื่อเพื่อการ Renovate บ้านโดยเฉพาะเป็นเท่าตัวนั่นเองค่ะ
4. เงื่อนไขในการขอสินเชื่อเพื่อ Renovate บ้าน
ในการยื่นขอสินเชื่อเพื่อ Renovate บ้านนั้นจะมีด้วยกันทั้งหมด 2 ประเภทด้วยกัน ดังนี้ค่ะ
4.1. บ้านที่ยังมีภาระผ่อน
สำหรับข้อนี้นะคะเชื่อว่าหลายคนอาจจะยังกลัวๆ เนื่องจากบ้านยังผ่อนไม่หมดจะสามารถยื่นกู้เงินเพิ่มมาเพื่อ ซ่อมแซมบ้านได้ไหมนะ? แต่น้อง Genie ต้องบอกก่อนค่ะว่าไม่เป็นปัญหาอย่างแน่นอน เนื่องจากว่าเราสามารถนำบ้านที่กำลังผ่อนอยู่ มาเป็นหลักทรัพย์เพื่อค้ำประกันกับธนาคารได้ค่ะ โดยที่ธนาคารจะพิจารณาให้กู้ได้ไม่เกินวงเงินประเมินบ้านที่ได้จดจำนองมาตั้งแต่แรก โดยดอกเบี้ยที่จะได้รับก็ถือว่าใกล้เคียงกับสินเชื่อบ้านนั่นเองค่ะ
ยกตัวอย่างเช่น บ้านของเพื่อนๆ มีการจดจำนองในตอนแรก 1,000,000 บาท และได้ผ่านการผ่อนชำระจนเหลือเงินต้น 500,000 บาท ก็สามารถกู้สินเชื่อซ่อมแซมบ้านได้ถึง 250,000 บาท เป็นต้นค่ะ
4.2. บ้านที่ปลอดภาระผ่อน
สำหรับข้อนี้นะคะ หากเพื่อนๆ คนไหนที่ผ่อนบ้านหมดแล้ว สามารถนำบ้านไปเป็นหลักประกันกู้ได้เลยค่ะ ซึ่งขั้นตอนการดำเนินการนั้นไม่ยุ่งยาก ซับซ้อนเท่ากับบ้านที่ยังมีภาระผ่อนอยู่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราสามารถนำวงเงินตรงนี้มาใช้กับอะไรก็ได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ซื้อเฟอร์นิเจอร์ หรือ ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ โดยธนาคารจะประเมินราคาวงเงินกู้ให้เรา แต่จะมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงตามมาเช่นกันค่ะ
4.3. คุณสมบัติของผู้ขอสินเชื่อ Renovate บ้าน
- มีอายุตั้งแต่ 20-60 ปี
- มีระยะเวลาในการกู้รวมกับอายุของผู้กู้ไม่เกิน 65-70 ปี
- เป็นผู้ที่มีงานประจำ
- มีฐานเงินเดือน 15,000 บาทขึ้นไป สำหรับข้าราชการ และพนักงานรัฐวิสาหกิจ
- มีฐานเงินเดือน 20,000 บาทขึ้นไป สำหรับพนักงานเอกชน
4.4. เอกสารที่ต้องเตรียมเพื่อยื่นขอสินเชื่อ Renovate บ้าน
- หลักฐานการเป็นเจ้าของอาคาร
- สำเนาโฉนดที่ดิน / นส.3ก ทุกหน้า
- ใบอนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลงอาคาร
- แบบแปลน
- ใบประมาณการดัดแปลงอาคาร / สัญญาว่าจ้างก่อสร้าง
- ในกรณีที่บ้านยังมีภาระหนี้ ต้องมีสำเนาสัญญากู้เงินและสำเนาสัญญาจำนองกับสถาบันการเงิน
- สำรวจและทำเช็คลิสต์ให้เรียบร้อยว่าเราต้องซ่อมแซมตรงจุดไหนบ้าง
- ศึกษาและเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคาร เพื่อให้เราได้ตัวเลือกที่ดีและคุ้มค่าที่สุด
5. ขั้นตอนในการขอสินเชื่อ Renovate บ้าน
- เริ่มต้นจากศึกษารายละเอียด และ เงื่อนไขสินเชื่อของธนาคารต่างๆ ก่อนนะคะ เนื่องจากว่าแต่ละธนาคารนั้นจะมีข้อกำหนด และ เงื่อนไขที่แตกต่างกัน เพื่อให้เราได้ข้อเสนอที่ดีที่สุดเราจึงควรศึกษาให้ละเอียดค่ะ
- เมื่อได้ข้อสรุป และ ได้ทำการเลือกสินเชื่อจากธนาคารที่เราคิดว่าได้ข้อเสนอที่ดีที่สุดแล้วนั้น ให้เพื่อนๆ เตรียมเอกสารตามข้อ 4.4. ได้เลยค่ะ
- เมื่อเอกสารพร้อมแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนที่จะทำการยื่นเรื่องขอสินเชื่อและประเมินราคาหลักทรัพย์ กับธนาคารที่เราได้ตัดสินใจเลือกไว้ก่อนหน้านี้แล้ว และเมื่อเราส่งเรื่องให้ทางธนาคารเรียบร้อยแล้วนั้น จะมีเจ้าหน้าที่ประเมินราคาหลักทรัพย์ติดต่อกลับมา เพื่อขอเข้ามาถ่ายรูปและสำรวจที่อยู่อาศัยที่ต้องการรีโนเวท ซึ่งในขั้นตอนนี้อาจจะมีค่าใช้จ่ายในส่วนของ "ค่าธรรมเนียมการสำรวจและประเมินราคาหลักประกัน" ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและโปรโมชั่นของแต่ละธนาคารค่ะ
- ในขั้นตอนนี้ แต่ละธนาคารจะใช้เวลาในการพิจารณาสินเชื่อแตกต่างกันนะคะ และที่สำคัญเมื่อธนาคารส่งวงเงินกู้เบื้องต้นมาให้เราพิจารณา เพื่อนๆ จะต้องเป็นฝ่ายตอบรับวงเงินกู้ หรือปรับวงเงินที่ได้รับให้เพียงพอกับจำนวนเงินที่ต้องใช้นั่นเองค่ะ
- เมื่อวงเงินกู้ ถูกอนุมัติแล้วนั้น เพื่อนๆ จะต้องเดินทางไปเซ็นสัญญาเงินกู้ พร้อมทำเรื่อง ณ สำนักงานที่ดินซึ่งที่อยู่อาศัยตั้งอยู่ และเมื่อเพื่อนๆ ชำระหนี้จนครบถ้วนทั้งหมดแล้วตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญา เพิ่อนๆ และเจ้าหน้าที่ธนาคารก็จะต้องเดินทางไปยังสำนักงานที่ดินอีกครั้ง เพื่อจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองที่อยู่อาศัยแห่งนั้นค่ะ
6. สินเชื่อประเภทไหนเหมาะกับเรามากที่สุด
ก่อนที่เราจะทำการยื่นขอสินเชื่อเพื่อ Renovate บ้านนั้นเราต้องทำการศึกษา เปรียบเทียบ ข้อเสนอ และรูปแบบสินเชื่อของแต่ละธนาคารอยู่แล้วถูกต้องไหมคะ ซึ่งวันนี้น้อง Genie ก็ได้เตรียมสินเชื่อในการกู้เงินประเภทต่างๆ มาให้เพื่อนได้ลองทำความรู้จักกันค่ะ จะมีประเภทไหนบ้างไปดูกันเลยค่ะ
- สินเชื่อบ้านแลกเงิน
สินเชื่อประเภทนี้นั้นจะแตกต่างกับสินเชื่อบ้านธรรมดาตรงที่ สินเชื่อนี้จะมีจุดประสงค์ คือการนำเงินที่ได้ไปลงทุนทำอย่างอื่นโดยใช้บ้านที่มีชื่อของเราเป็นกรรมสิทธิ์ไปเป็นหลักประกัน ซึ่งจะมีหลักเกณฑ์คล้ายๆ กันคือ วงเงินกู้จะอยู่ที่ไม่เกิน 70-80% ของราคาประเมินหลักทรัพย์ และระยะเวลาในการกู้ไม่เกิน 30 ปี หรือเมื่อรวมกับอายุของผู้ขอกู้ในขณะนั้นแล้วต้องไม่เกิน 65-70 ปี
- สินเชื่อส่วนบุคคล
สินเชื่อประเภทนี้ผู้ขอสินเชื่อจะได้รับเงินก้อน เพื่อนำไปใช้จ่ายในส่วนต่างๆ ที่ต้องการ โดยจำนวนวงเงินที่ขอสินเชื่อนั้นจะอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 5 เท่าของเงินเดือนค่ะ ข้อดีของสินเชื่อตัวนี้คือ ไม่จำเป็นต้องมีบุคคลค้ำประกัน หรือ นำหลักทรัพย์มาค้ำประกัน โดยสินเชื่อส่วนบุคคลนี้เป็นสินเชื่อที่สามารถกำหนดระยะเวลากู้ได้แน่นอน และมีอัตราดอกเบี้ยที่คงตัว อีกทั้งการชำระเงินสามารถชำระได้เท่าๆกันในทุกๆเดือนอีกด้วยค่ะ
- สินเชื่อรถแลกเงิน
สินเชื่อประเภทนี้คือ การนำรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ที่เพื่อนๆ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ไปเป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกันเพื่อแลกเป็นเงินสดนั่นเองค่ะ วงเงินที่เพื่อนๆ จะได้รับนั้นขึ้นอยู่กับประเภท และ ยี่ห้อ และรุ่นของรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์นั่นเองค่ะ
- สินเชื่อบัตรกดเงินสด
สินเชื่อประเภทนี้เป็นรูปแบบสินเชื่อที่จัดว่าสะดวก รวดเร็วและสมัครง่าย โดยที่ไม่ต้องมีบัญชีกับธนาคาร และไม่ต้องมีหลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกันเลยค่ะ สามารถเบิกเงินด่วนได้ทันใจได้จากตู้ ATM โดยสินเชื่อจะเหมาะกับกรณีที่ต้องใช้เงินฉุกเฉินเท่านั้นค่ะ เนื่องจากว่ามีอัตราดอกเบี้ยจะค่อนข้างสูงต่างจากสินเชื่อประเภทอื่นนั่นเองค่ะ
7. สินเชื่อ Renovate บ้านของแต่ละธนาคาร
น้อง Genie ขอแนะนำสินเชื่อ Renovate บ้าน ประจำปี 2565 จากธนาคารต่างๆดังนี้ค่ะ
1. สินเชื่อ Renovate บ้าน จากธนาคารไทยพาณิชย์
1.1. สินเชื่อบ้านคือเงิน My Home My Cash
เปลี่ยนบ้านเป็นเงินทันใจ จะซ่อมแซมต่อเติมบ้าน ปลดภาระ ค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน หรือทำตามความฝัน โดยการนำอสังหาริมทรัพย์ มาเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อ เช่น บ้านเดี่ยว,ทาวน์เฮ้าส์, ทาวน์โฮม, อาคารพาณิชย์ (ตึกแถว), คอนโดมิเนียม, ที่ดินว่างเปล่า (ไม่รกร้าง และอยู่ในชุมชนพักอาศัย)
- วงเงินสินเชื่อสูงสุด 20 ล้านบาท (การอนุมัติวงเงินกู้ พิจารณาขึ้นอยู่กับรายได้ มูลค่าหลักประกัน และเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด)
- ผ่อนสบายนานสูงสุด 30 ปี (เลือกระยะเวลาผ่อนชำระได้นานสุด 30 ปี โดยรวมระยะเวลาผ่อนชำระเมื่อรวมกับอายุของผู้กู้แล้วจะต้องไม่เกิน 65)
- อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 - 3 = MRR+0.850%
- อัตราดอกเบี้ยปีที่ 4 เป็นต้นไป = MRR+1.650%
สำหรับลูกค้าสินเชื่อเคหะ หรือสินเชื่อบ้านคือเงิน My Home My Cash ปัจจุบันของธนาคาร ที่ผ่อนชำระเงินกู้บ้านตรงกำหนดมาแล้วตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป สามารถขอวงเงินกู้เพิ่มเติมได้จากส่วนที่ลูกค้าได้มีการผ่อนชำระไปแล้ว โดยยังคงผ่อนชำระในอัตราเดิมได้ ระยะเวลากู้นานสูงสุด 30 ปี และระยะเวลาผ่อนชำระรวมอายุผู้กู้แล้วไม่เกิน 65 ปี
อัตราดอกเบี้ย สามารถอ่านเพิ่มเติมได้โดย “คลิกที่นี่”
2. สินเชื่อ Renovate บ้าน จากธนาคารอาคารสงเคราะห์
2.1. โครงการบ้าน ธอส. เพื่อปลูกสร้าง ปี 2563
- วัตถุประสงค์การยื่นกู้
กรณีลูกค้ารายย่อย และลูกค้าสวัสดิการไม่มีเงินฝาก เพื่อปลูกสร้างอาคารเพื่อต่อเติม หรือขยาย หรือซ่อมแซมอาคาร
กรณีลูกค้าสวัสดิการไม่มีเงินฝาก (เกรด A) เพื่อปลูกสร้างอาคารเพื่อต่อเติม หรือขยาย หรือซ่อมแซมอาคาร เพื่อซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร
- อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 = 0.75% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยปีที่ 2 = 3.75% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยปีที่ 3 = 4.75% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยปีที่ 4 กรณีรายย่อยทั่วไป = MRR-0.75% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยปีที่ 4 กรณีรายย่อยสวัสดิการ = MRR-1.00% ต่อปี
- วัตถุประสงค์การยื่นกู้
- เพื่อปลูกสร้างอาคาร
- เพื่อซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร
- เพื่อต่อเติม หรือขยาย หรือซ่อมแซมอาคาร
- เพื่อไถ่ถอนจำนองที่ดินเปล่าจากสถาบันการเงินอื่นพร้อมปลูกสร้างอาคาร
- เพื่อไถ่ถอนจำนองที่ดินพร้อมอาคารจากสถาบันการเงินอื่น และปลูกสร้างอาคาร หรือต่อเติม / ขยาย /ซ่อมแซมอาคาร
- เพื่อซื้อหรือจัดให้มีอุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัยพร้อมกับวัตถุประสงค์การขอกู้กรณีกู้ใหม่ตามข้อ (1) ถึงข้อ (5) และกรณีกู้เพิ่มเท่านั้น
- เพื่อชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) พร้อมกับการขอกู้ในวัตถุประสงค์หลักของผลิตภัณฑ์นี้เท่านั้น
- กู้เพิ่มเพื่อปลูกสร้าง / ต่อเติม / ขยาย / ซ่อมแซมอาคาร
- อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 - 3 = MRR - 2.70% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา ลูกค้ารายย่อย = MRR - 0.50% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา ลูกค้าสวัสดิการ = MRR - 1.00% ต่อปี
3. สินเชื่อ Renovate บ้าน จากธนาคารกรุงไทย
- วัตถุประสงค์การยื่นกู้
- นำไปใช้จ่ายตามความต้องการทั่วไป
- checkimg นำไปชำระเบี้ยประกันชีวิตได้
- checkimg เลือกกู้ได้ตามใจ (ทั้งแบบวงเงินหมุนเวียน และกำหนดระยะเวลา)
- checkimg กู้ง่าย (ได้ทั้งลูกค้าสินเชื่อบ้านรายใหม่และเก่า)
- อัตราดอกเบี้ย เงินกู้แบบกำหนดระยะเวลา (Term Loan)
- ตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป = MRR – 0.5%
- อัตราดอกเบี้ย เงินกู้แบบหมุนเวียน (Revolving Loan) = MRR + 1.0% ต่อปี
***ระยะเวลาให้กู้ 1 ปี ธนาคารจะพิจารณาต่อสัญญาปีต่อปีให้กับลูกค้าที่มีประวัติชำระดี***
3.2. สินเชื่อกรุงไทยบ้านให้เงิน
- วัตถุประสงค์การยื่นกู้
- ให้วงเงินกู้สูงสุดถึง 20 ล้านบาท
- กู้ง่ายแค่จำนองบ้าน อาคารชุด อาคารพาณิชย์หรือที่ดินเข้าธนาคาร
- ไม่มีบัญชีเงินเดือนผ่านกรุงไทยก็กู้ได้ใช้จ่ายได้ทุกความต้องการ
- อัตราดอกเบี้ย ผู้ที่มีรายได้ประจำ (Salary)
- ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง = ปีที่ 1 - 2 : MRR - 1.5% หลังจากนั้น: MRR - 0.5%
- อาคารชุด / อาคารพาณิชย์ = ปีที่ 1 - 2: MRR - 1.0%
- ที่ดินเปล่า = ปีที่ 1-2: MRR - 0.5% หลังจากนั้น: MRR + 1.0%
- อัตราดอกเบี้ย ผู้ที่มีรายได้จากการประกอบธุรกิจส่วนตัว (Self Employed)
- ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง = MRR + 1.0%
- อาคารชุด / อาคารพาณิชย์ = MRR + 1.0%
**ระยะเวลาให้กู้สูงสุด 30 ปี**
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับบทความสินเชื่อเพื่อ การ Renovate บ้าน ที่นำมาฝากกันในวันนี้ ซึ่งต้องบอกก่อนเลยค่ะว่า ไม่ว่าเราจะเลือกกู้ขอสินเชื่อประเภทไหนก็ตามแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ การอ่านข้อกำหนด เงื่อนไข และข้อเสนอจากธนาคารให้เข้าใจ และตัดสินใจเลือกข้อเสนอที่ดีที่สุด เพราะน้อง Genie เชื่อว่าการกู้เงินก้อนใหญ่มาทั้งทีเราต้องได้ข้อเสนอที่จึ้งสุดๆ นั่นเองค่ะ
น้อง Genie หวังเป็นอย่างยิ่งนะคะว่าบทความในวันนี้จะมีส่วนช่วยให้เพื่อนๆ ได้ตัดสินใจเลือกข้อเสนอจากธนาคารได้ดีที่สุด และหวังว่าเพื่อนๆ คงจะชอบบทความนี้ไม่มากก็น้อยนะคะ
แต่หากใครที่กำลังมองหาบ้าน หรือคอนโดที่สร้างเสร็จพร้อมตกแต่ง และสามารถเข้าอยู่ได้เลยไม่ควรพลาดเว็บไซต์นี้ค่ะ www.genie-property.com เป็นแพลตฟอร์มค้นหาอสังหาริมทรัพย์รูปแบบ VR Tour ตัวช่วยง่ายๆ ที่จะทำให้เพื่อนๆ ประหยัดเวลา แถมได้เห็นห้องจริง โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาออกไปดูหลายๆ ที่ เว็บนี้ตอบโจทย์เพื่อนๆ แน่นอนค่ะ
และเพื่อเป็นกำลังใจให้น้อง Genie เพื่อนๆ สามารถเข้ามาพูดคุย หรือกดติดตามข่าวสารดีๆเกี่ยวกับแวดวงอสังหาฯ และ ไลฟ์สไตล์กันได้ผ่านทางช่องทางด้านล่างนี้เลยค่าาา
LINE: @genie-property.com
FACEBOOK: Genie-Property.com
EMAIL: sales@genie-property.com
CALL CENTER: 093-232-9888,064-931-8666
Website : www.genie-property.com
แนะนำบทความที่น่าสนใจ
- เรื่องน่ารู้ ต่อเติมบ้านแบบไหนถูกกฎหมาย! ไม่ต้องขออนุญาต
- พื้นคอนกรีต VS ปลูกพืชคลุมดิน แบบไหนช่วยลดอุณหภูมิบ้าน
- เคล็ดไม่ลับปรับ “ฮวงจุ้ยบ้าน” เสริมสิริมงคลประจำปี 2565
ขอบคุณข้อมูลจาก