"กำจัดหนู" ให้อยู่หมัดด้วย 3 ไอเทมโคตรเด็ด

สร้างเมื่อ Jul 4, 2022

วันนี้น้อง Genie จะพาเพื่อนๆ ไปดูวิธีการกำจัดหนู!! กันค่าา มองเผินๆ เพื่อนๆ บางคนอาจจะแค่ไล่ให้น้องไปไกลๆ เท่านั้น แต่หารู้ไม่ว่าเจ้าหนูตัวน้อยนี่แหละ เป็นพาหะนำโรคที่ร้ายแรงเลยค่ะ ซึ่งจะมีโรคร้ายชนิดใด และ มีวิธีกำจัดหนูแบบถาวรอย่างไรบ้างนั้น ไปชมพร้อมๆ กันเลยค่าาา

undefined

1. ความอันตรายที่มากับหนู

ขึ้นชื่อว่า “หนู” เราจะทราบกันดีอยู่แล้วนะคะว่ามันสามารถแพร่พันธุ์ได้รวดเร็วมากๆ ชอบอาศัยอยู่ในสถานที่ที่สกปรก แถมสกิลขั้นเทพของมันก็คือการปรับตัวให้คุ้นชินกับการอาศัยตามบ้านเรือนของคนได้เป็นอย่างดี จึงทำให้มันนั้นสามารถแพร่กระจายเชื้อโรคจากตัวของมันเองมาสู่มนุษย์ได้อีกด้วยค่ะ

ซึ่ง “หนู” นั้นเป็นพาหะนำโรคต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น โรคฉี่หนู กาฬโรค ไวรัสฮันตา และเชื้อโรคต่างๆ อีกมากมาย และบางโรคนั้นอาจรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็มีค่ะ

1.1. โรคร้าย อันตรายที่มาจากหนู

1. โรคฉี่หนู

โรคฉี่หนู เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เล็ปโตสไปรา (Leptospira) ซึ่งจะสามารถเกิดขึ้นทั้งกับคนและสัตว์เลยนะคะ โดยจะมีสัตว์จำพวกเลี้ยงลูกด้วยนมเป็นพาหะนำโรคไม่ว่าจะเป็น วัว ควาย ม้า สุนัข รวมไปถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ

การติดเชื้อ จะสามารถขึ้นได้จากการที่ร่างกายของเราไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ ดวงตา มือ ปาก จมูก หรือ ส่วนใดส่วนหนึ่งที่เป็นแผล แล้วเผลอไปสัมผัสกับปัสสาวะ เลือด หรือเนื้อเยื่อจากสัตว์ที่ติดเชื้อนั่นเองค่ะ

อาการของคนติดเชื้อ อาการส่วนใหญ่ที่พบมักจะไม่ค่อยรุนแรงมากนะคะ จะมีอาการคล้ายๆ กับโรคไข้หวัดใหญ่ ดังนี้ค่ะ

  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • ปวดศีรษะ มีไข้สูง หนาวสั่น
  • ปวดกล้ามเนื้อหรือข้อต่อ
  • เจ็บช่องท้อง
  • รู้สึกเหนื่อยล้า
  • ตาแดงหรือระคายเคืองที่ตา
  • มีผื่นขึ้น
  • ไม่อยากอาหาร
  • ท้องเสีย

วิธีป้องกันโรคฉี่หนู

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสตัวสัตว์ หรือ หนูที่ตายแล้ว
  • สวมชุดป้องกันเมื่อต้องเข้าไปอยู่ในสถานที่เสี่ยง เช่น ถุงมือ รองเท้าบูท เป็นต้น
  • แยกสัตว์ที่ติดเชื้อออกจากสัตว์ชนิดอื่น เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ
  • เมื่อมีการสัมผัสสัตว์ที่เสี่ยงติดเชื้อ ควรรีบทำความสะอาดร่างกายโดยเร็วที่สุด
  • กินอาหารที่ปรุงสุกใหม่เท่านั้น

2. ไวรัสฮันตา (Hantavirus)

ไวรัสฮันตา (Hantavirus) ส่วนใหญ่โรคนี้นั้นจะสามารถพบได้ในสัตว์ฟันแทะ เช่น หนู กระต่าย และกระรอก เป็นต้นค่ะ ซึ่งไวรัสชนิดนี้นั้นจะก่อให้เกิดอาการคล้ายไข้หวัด หรือ โรคปอดอักเสบนั่นเองค่ะ

การติดเชื้อ จะสามารถเกิดขึ้นได้จากการสูดดมละอองจากสารคัดหลั่งของหนูที่ปนเปื้อนอยู่ภายในอากาศ ซึ่งจะส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ทั้งนี้การติดเชื้ออาจจะมาจากการถูกสัตว์เหล่านี้กัด การรับเชื้อผ่านทางบาดแผล และการรับประทานอาหารที่มีการปนเปื้อนค่ะ

อาการของคนติดเชื้อ สำหรับผู้ที่ติดเชื้อ ไวรัสฮันตา (Hantavirus) นะคะ จะเริ่มแสดงอาการในเวลา 1 - 8 สัปดาห์หลังจากที่ได้รับเชื้อ ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 ช่วงได้ดังนี้ค่ะ

  • ช่วงระยะเริ่มต้น ผู้ป่วยจะจะมีอาการคล้ายไข้หวัด คือ ร่างกายอ่อนเพลีย มีไข้ อาเจียน ปวดตามเนื้อตัว ร้อนๆ หนาวๆ ร่วมด้วยค่ะ
  • ช่วงระยะหลัง หลังจากได้รับเชื้อมาประมาณ 1 สัปดาห์นั้นผู้ป่วยจะมีอาการไอ มีเสมหะ มีน้ำคั่งในปอด ประสิทธิภาพในการทำงานของหัวใจลดต่ำลง

วิธีป้องกันการติดเชื้อไวรัสฮันตา

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ฟันแทะ
  • ดูแลความสะอาดบริเวณในบ้าน นอกบ้าน ในครัว
  • วางกับดักจับหนูไว้ที่บริเวณขอบกำแพง
  • ฆ่าเชื้อโรคที่บริเวณสัตว์ฟันแทะเคยอาศัยอยู่

3. กาฬโรค

กาฬโรค เรียกได้ว่าเป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คนที่รุนแรงที่สุดเลยก็ว่าได้ค่ะ สาเหตุก็มาจากแบคทีเรีย ที่มีขื่อว่า เยอร์ซีเนีย เพสติส (Yersinia Pestis) ที่อยู่ในสัตว์ฟันแทะอีกเช่นกันค่ะ ซึ่งหากผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อโรคชนิดนี้แล้วไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีนั้น อาจจะมีความรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็ได้ค่ะ

การติดเชื้อ อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้นนะคะว่าการติดเชื้อ กาฬโรค นั้นเกิดจากแบคทีเรีย

เยอร์ซีเนีย เพสติส (Yersinia Pestis) ซึ่งจะอยู่ในสัตว์จำพวก หนู กระรอก ชิพมังค์ และกระต่าย โดยเชื้อโรคนั้นจะสามารถแพร่สู่คนได้ด้วยการโดนหมัดที่อาศัยอยู่บนตัวของสัตว์ดังกล่าวกัดค่ะ

อาการของคนติดเชื้อ นั้นจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 อาการดังนี้ค่ะ

  • กาฬโรคต่อมน้ำเหลือง (Bubonic Plague) กาฬโรคชนิดนี้มีสาเหตุจากการโดนหมัดที่มีเชื้อกัด จะทำให้มีอาการปวดหัว อาเจียน หนาวสั่น รวมไปถึงต่อมน้ำเหลืองบวม ซึ่งอาการของโรคนี้จะ และหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที จะทำให้เชื้อแพร่กระจายไปยังอวัยวะส่วนอื่น ๆ ในร่างกายได้อย่างรวดเร็วเลยค่ะ
  • กาฬโรคปอด (Pneumonic Plague) กาฬโรคชนิดนี้มีสาเหตุจากการที่ผู้ป่วยนั้นหายใจเอาละอองเชื้อเข้าไปในปอด หรืออาจจะเกิดจากติดเชื้อ กาฬโรคต่อมน้ำเหลือง (Bubonic Plague) จนทำให้เชื้อโรคนั้นแพร่กระจายไปสู่ปอดนั่นเองค่ะ ซึ่งโรคนี้นั้นจะมีอาการมีไข้ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ อาเจียน และทำให้ปอดบวมอย่างรวดเร็ว จนทำให้เจ็บหน้าอก หายใจตื้น รวมไปถึงสามารถทำให้การหายใจล้มเหลว หรือช็อกได้เลยค่ะ และที่สำคัญโรคนี้นั้นสามารถแพร่เชื้อจากคนสู่คนได้ค่ะ
  • กาฬโรคแบบโลหิตเป็นพิษหรือติดเชื้อในกระแสเลือด (Septicemic Plague) กาฬโรคชนิดนี้มีสาเหตุจากการโดนหมัดที่มีเชื้อกัด หรือ ผู้ป่วยสัมผัสกับสัตว์ที่ติดเชื้อ และอาจจะมาจากกาฬโรคทั้ง 2 ชนิดก่อนหน้าแพร่เชื้อโดยที่ไม่ได้รับการรักษานั่นเองค่ะซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการมีไข้ หนาวสั่น อ่อนเพลียอย่างรุนแรง ช็อก มีเลือดออกที่ผิวหนังและอวัยวะอื่น ๆ ในร่างกาย เช่น ปาก จมูก หากมีอาการดังกล่าวเป็นอาการที่รุนแรงมากๆ ควรจะรีบไปพบแพทย์และทำการรักษา เพื่อช่วยป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงหรือการเสียชีวิตได้นั่นเองค่ะ

วิธีป้องกันการติดเชื้อกาฬโรค

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ที่คิดว่ามีการติดเชื้อโดยตรง
  • ไม่ควรนอนกับสัตว์เลี้ยงแบบปล่อย เนื่องจากว่าสัตว์เลี้ยงนั้นอาจได้รับเชื้อกาฬโรค หรือ มีหมัดที่อยู่กับสัตว์เลี้ยง
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ควบคุมและกำจัดหมัดสำหรับสัตว์เลี้ยง
  • กำจัดหนูหรือสัตว์ที่ใช้ฟันแทะ โดยเฉพาะในบริเวณที่อยู่อาศัยหรือที่ทำงาน
undefined

2. เปิด 8 วิธีกำจัดหนูแบบถาวร

สำหรับวิธีการกำจัดหนูให้หายออกไปจากบ้านเราอย่างถาวรนั้นมีหลากหลายวิธีเลยนะคะ ซึ่งน้อง Genie ก็ได้รวบรวมมาให้เพื่อนๆแบบ กระชับ และเข้าใจง่ายมากๆ จะมีวิธีไหนบ้างนั้นตามมาเลยค่ะ

1. ลูกเหม็น

สำหรับวิธีแรกนั้นเรียกได้ว่าเป็นวิธีที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายเลยนะคะ เพราะนอกจากจะช่วยไล่หนูแล้วนั้น ยังสามารถช่วยดับกลิ่นอับภายในบ้านได้อีกด้วยค่ะ เพียงแค่นำลูกเหม็นไปวางตามตู้เสื้อผ้า กล่องเก็บของ หรือสถานที่ที่มีแนวโน้มว่าเจ้าหนูตัวร้านจะมาอาศัยอยู่นั่นเองค่ะ

2. การบูร

กลิ่นของ การบูร นั้นเป็นสิ่งที่เจ้าหนูนั้นเกลียดเอามากๆเลยค่ะ เนื่องจากว่ามันมีกลิ่นฉุน การใช้การบูรเพื่อไล่หนูก็เป็นทางเลือกที่ดีมากๆ เลยค่ะ เพียงแค่นำ การบูรไปวางไว้ตามซอกตู้ ซอกผนัง ฝ้าเพดาน ห้องครัว หรือ ซอกประตู เป็นต้นค่ะ

3. น้ำมันก๊าด

วิธีนี้อาจจะต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้สักนิดนะคะ เนื่องจากว่าน้ำมันก๊าดนั้นสามารถเปลี่ยนเป็นเชื้อเพลิงได้อย่างดีเลยค่ะ แต่ก็สามารถใช้ไล่หนูได้อีกเช่น เพราะว่าหากหนูได้กลิ่นน้ำมันก๊าด จะทำให้มันเวียนหัวจนไม่กล้าเข้าใกล้อีกเลยค่ะ เพียงแค่นำน้ำมันก๊าดใส่ถ้วยเล็กๆ และนำไปวางตามจุดต่างๆ ที่พวกหนูวิ่งผ่านบ่อยๆ ค่ะ

4. สเปรย์ไล่หนู

ด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้นั้น ทำให้ในปัจจุบันมีการผลิตสเปรย์ออร์แกนิคที่สามารถช่วยไล่หนูไปได้ แถมเรายังไม่ต้องรู้สึกผิดอีกด้วยค่ะ เนื่องจากว่าสารสกัดที่นำมาใช้นั้นจะเป็นสมุนไพรที่อ่อนโยนต่อเรา แต่จะมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์เพื่อไล่หนูนั่นเองค่ะ เพียงแค่ฉีดสเปรย์ตรงบริเวณที่เจ้าหนูนั้นชอบผ่านบ่อยๆ แค่นี้เจ้าหนูก็จะไม่มากวนใจอีกแล้วค่ะ

5. สมุนไพรไล่หนู

เจ้าพวกหนูนั้นจะเกลียดสมุนไพรที่มีกลิ่นฉุนมากๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ใบพลู ข่า กระเทียม ใบสะระแหน่ กานพลู เป็นต้น เพียงแค่นำสมุนไพรดังกล่าววางไว้ตามแนวทางเดิน และทางเข้ารังหนู เท่านี้เจ้าพวกหนูก็จะรีบย้ายถิ่นฐานออกไปจากบ้านเราแล้วค่ะ

6. กรงดักหนู

วิธีนี้อาจจะเหมาะกับบ้านที่มีหนูวิ่งกวนใจทั้งวัน ทั้งคืนไม่ว่าจะที่ห้องใต้หลังคา หรือ ฝ้าเพดาน เพียงแค่เรานำอาหารใส่เข้าไปในกรงดักหนู เมื่อเจ้าหนูเห็นก็จะวิ่งมากินอาหาร กรงดักหนูก็จะทำหน้าที่ขังเจ้ากนูตัวแสบไว้ภายใน เท่านี้เราก็สามารถนำเจ้าหนูไปทิ้งไกลๆ บ้านเราได้แล้วค่ะ

7. เครื่องไล่หนู

สำหรับวิธีนี้นะคะ เหมาะสำหรับคนที่กลัวหนู และ ไม่อยากถือกรงดักหนูไปทิ้งด้วยตัวเอง ซึ่งการใช้เครื่องไล่หฯูที่เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยนั้นถือว่าตอบโจทย์มาๆ ค่ะ ซึ่งเครื่องไล่หนูนั้นจะทำการปล่อยคลื่นความถี่ไฟฟ้าออกไป เมื่อหนูเข้ามาใกล้จะรู้สึกวิงเวียนจนไม่เข้ามาใกล้อีกเลยหล่ะค่ะ

8. เลี้ยงแมว

วิธีนี้เป็นวิธียอดฮิตเลยก็ว่าได้ค่ะเพราะน้อง Genie เองก็ใช้วิธีนี้เหมือนกัน แฮร่ แฮร่ >< อย่างที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าหากบ้านไหนที่เลี้ยงแมวนั้น ก็จะไม่พบเจอปัญหาหนูออกมาวิ่งเพ่นพ่านอีกเลย เนื่องจากว่าซุปเปอร์แมวของเรานั้นจะเป็นตัวช่วยในการล่าเจ้าหนูตัวป่วนให้เรานั่นเองค่ะ

undefined

3. วิธีป้องกันไม่ให้หนูกลับมารบกวนอีก

สำหรับวิธีป้องกันหนูไม่ให้กลับมารบกวนเราอีกนั้นเพื่อนๆ สามารถทำตามคำแนะนำของน้อง Genie ได้เลยค่ะ รับรองว่าจะไม่เห็นหนูสักตัวเดียวแน่นอนค่ะ

  • ปิดช่องทางเดินของหนู โดยส่วนใหญ่นั้นหนูมักจะเดินทางผ่านท่อน้ำ ซอก หรือ ช่องเล็กๆ ตามหลังคาบ้าน ฝ้าเพดาน หากเพื่อนๆเห็นว่ามีช่อง หรือ รูพวกนี้ให้รีบทำการปิดช่องโหว่นั้นทันทีค่ะ
  • จัดบ้านให้ดูโปร่ง โล่ง อย่างที่เราทราบกันดีนะคะว่าเจ้าพวกหนูนั้นจะชอบอาศัยที่อยู่บริเวณที่รก เช่น กองไม้ กองกระดาษ ดังนั้นเราควรจัดบ้านให้เป็นระเบียบ เพื่อป้องกันเจ้าพวกหนูนั้นมา สร้างครอบครัวในบ้านของเรานั่นเองค่ะ
undefined

4. 3 ไอเทมเด็ดกำจัดหนู

1. Ars Rat Glue

ไอเทมชิ้นแรกนะคะจะเป็น อาท แร็ทกลู หรือ ถาดกาวดักหนูสำเร็จรูปนั่นเองค่ะ ซึ่งปราศจากสารพิษ ดักจับหนูตัวป่วนได้อยู่หมัด ทรงถาดสี่เหลี่ยม ขนาดกะทัดรัด เข้ามุมสะดวก พร้อมตัวล็อกทั้ง 4 มุม ป้องกันถาดเลื่อนออกจากกัน ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก

วิธีใช้งาน เพียงวางถาดกาว พร้อมเหยื่อ เช่น ปลาทู กุ้งแห้ง ไว้บริเวณที่หนูชอบออกมาเดินบ่อยๆ จากนั้นเจ้าหนูจะหลงกลเดินเข้ามากินเหยื่อจนติดกาวไปไหนไม่ได้นั่นเองค่ะ

2. Clear - Mouse

ไอเทมชิ้นต่อมานะคะจะเป็น ผลิตภัณฑ์ไล่หนูชนิดก้อนค่ะ ซึ่งผลิตภัณฑ์นี้จะส่งกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ออกมาเพื่อไล่เจ้าหนูไม่ให้มาาเพ่นพ่าน แล้วเผ่นหนีออกไปจากบ้านเรานั่นเองค่ะ

วิธีใช้งาน เพียงแค่นำตัวยาไปวางบริเวณที่ต้องการไล่หนูหรือตรงบริเวณที่หนูมารบกวน ไม่ว่าจะเป็นบริเวณใต้ฝ้า, เพดาน, ห้องครัว, ตามซอกตู้, ตามมุมต่างๆ หรือวางป้องกันหนูกัดสายไฟเครื่องใช้ไฟฟ้า, ห้องเก็บของ, หรือแม้แต่หน้ากระโปรงรถยนต์ รัศมีการส่งกลิ่นของตัวยา ประมาณ 3 - 4 ตารางเมตร

*ที่สำคัญตัวยานี้มีอายุการใช้งานนานถึง 60 วันเลยค่ะ*

3. Leo Rat spray

สำหรับไอเทมชิ้นสุดท้ายนะคะจะเป็น สเปรย์ไล่หนูค่ะ ซึ่งสเปรย์ตัวนี้นั้นจะมีประสิทธิภาพในการลดปริมาณการเข้ามาสร้างถิ่นฐานของเจ้าหนูภายในบ้านของเรานั่นเองคะ

วิธีใช้งาน เพียงแค่นำ Leo Rat spray ไปฉีดพ่นตามบริเวณที่ต้องการเช่น บริเวณใต้ฝ้า, เพดาน, ห้องครัว, ตามซอกตู้ เท่านี้เจ้าพวกหนูก็จะหนีเตลิดเปิดเปิงไปไม่มากวนใจเราแล้วค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับวิธีกำจัดหนูที่นำมาฝากกันในวันนี้ ต้องบอกก่อนเลยนะคะว่า โรคร้ายต่างๆ ที่มีหนูเป็นพาหะนำโรคนั้นเป็นโรคที่อันตรายมากๆ หลายคนละเลยการกำจัดหนูอย่างจริงจังจนทำให้จำนวนของพวกมันนั้นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนหาวิธีกำจัดยากมากขึ้น ส่วนตัวน้อง Genie ก็เคยประสบปัญหาเกี่ยวกับเจ้าพวกหนูที่มาบุกรุกบ้านเช่นกันค่ะ เรียกได้ว่าเป็นปัญหาที่สำคัญอย่างหนึ่งสำหรับการอยู่อาศัยภายในบ้านเลยก็ว่าได้ค่ะ

น้อง Genie หวังว่าวิธีไล่หนูที่นำมาฝากเพื่อนๆ ในวันนี้จะสามารถช่วยให้เพื่อนๆ นั้นสามารถกำจัดหนูได้ด้วยตัวเองได้ง่ายๆนะคะ นอกจากจะมีปัญหาเรื่องหนูแล้วนั้น ปัญหาเรื่องแมลงสาบ และ ปัญหาจากนกพิราบก็เรียกได้ว่าเป็นปัญหาระดับโลกเช่นเดียวกัน แต่เพื่อนๆ ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะน้อง Genie ได้ทำการค้นคว้าหาวิธีมาให้เพื่อนๆได้ลองไปทำตาม สามารถติดตามได้ทางบทความนี้ค่ะ

3 ไอเทมเด็ด! ป้องกันแมลงสาบบุกคอนโด (บรึ้ยยยยยยย) และ หมดปัญหาขี้นกพิราบ ด้วย 3 วิธี

และเพื่อนๆสามารถติดตามและให้กำลังใจทีมงานนักเขียนทุกท่านผ่านการ “กดถูกใจ” ได้ที่ Facebook Fanpage ข้างล่างนี่เลยนะคะ

LINE: @genie-property.com

FACEBOOK: Genie-Property.com

EMAIL: sales@genie-property.com

CALL CENTER: 093-232-9888,064-931-8666

Website : www.genie-property.com

ขอบคุณข้อมูลจาก

Pobpad

กรมควบคุมโรค

Baania