รีวิว ชาโตว์ อินทาวน์ วิภาวดี 30-2
ชาโตว์ อินทาวน์ วิภาวดี 30-2
RHF7+78 กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
โดย:
02-05-2025

“น้อง Genie พาทัวร์! โครงการ Chateau In Town Vibhavadi 30-2 ผ่านรูปแบบใหม่ด้วย VR Tour หรือ Virtual Reality สัมผัสความน่าตื่นตาตื่นใจที่เหนือระดับกว่าวิดิโอ หรือ ภาพถ่าย ด้วยการเดินทัวร์เสมือนจริงได้อย่างอิสระ 360 องศา มองเห็นทุกอณูภายในโครงการเปรียบเสมือนไปชมโครงการจริงๆ และที่พิเศษไปกว่านั้นคือสามารถรับชมได้ตลอด 24 ชั่วโมงผ่าน Smart Phone หรือ Tablet มาสัมผัสบรรยากาศเสมือนจริงของโครงการ Chateau In Town Vibhavadi 30-2 ได้ที่รีวิวนี้เลยค่ะ”
1 Bedroom ขนาด 37.38 ชั้น 2
ข้อมูลประกอบ VR
สำหรับห้องที่น้อง Genie จะพาไปชมนะคะจะเป็น Type 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด
37.38 ตร.ม. ชั้น 2 ค่ะ ซึ่งห้องนี้จะเป็นห้องก่อนที่น้อง Genie จะเข้าไปทำการตกแต่งนะคะ
ลักษณะห้องแบบเดิม
👍 ห้องมีพื้นที่ค่อนข้างเล็ก ซึ่งอาจทำให้การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ทำได้ยาก และมีพื้นที่ใช้งานไม่มากนัก
👍 แม้ว่าจะมีประตูกระจกบานเลื่อน แต่ตำแหน่งของอาคารรอบๆ และขนาดของหน้าต่างอาจทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้ไม่เพียงพอ
👍 มีคราบหรือรอยเปื้อนที่กระจกและบางจุดของผนัง ทำให้ห้องดูเก่า
👍 พื้นไม้ลามิเนตและผนังสีขาวล้วน ทำให้ห้องขาดความโดดเด่น
สำหรับห้องนี้นะคะ ก่อนที่น้อง Genie จะเข้ามาตกแต่ง และ ขายแบบครบวงจร ห้องเดิมต้องบอกว่าเป็นลักษณะห้องเปล่าๆ เลย ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ และไม่ได้มีการเข้ามาบำรุงเลยค่ะ แต่โดยรวมก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีค่ะ
ภายในห้องนั่งเล่นดูโปร่งโล่ง และ มีบรรยากาศสบาย ๆ ด้วยผนังสีขาวที่ช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น พื้นเป็นไม้ลามิเนตสีอ่อน ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเข้ากับแสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามาผ่านประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ ซึ่งนำไปสู่ระเบียงด้านนอก จากมุมนี้สามารถมองเห็นวิวของอาคารและต้นไม้ภายนอกได้ค่ะ
บริเวณมุมห้องมีปลั๊กไฟติดตั้งไว้หลายจุด สะดวกสำหรับการจัดวางเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ใกล้กับประตูทางเข้า มีพื้นที่เล็ก ๆ ซึ่งสามารถใช้เป็นมุมวางชั้นวางของหรือรองรับเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเติมได้
มาดูในส่วนของห้องน้ำกันบ้างค่ะ เดิมต้องบอกก่อนว่าห้องน้ำอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างโอเคเลย แต่จะมีส่วนของกระจกที่มีคราบ และ รอยเปื้อนค่อนข้างชัดเจน ซึ่งอาจทำให้ห้องน้ำดูไม่สะอาดเท่าที่ควร อีกทั้งไฟในห้องน้ำก็เสียทั้งหมดเลยค่ะ ทำให้เราต้องเข้าไปเพิ่มไฟ เพื่อให้ห้องน้ำดูสว่างมากขึ้น
ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีผนังตกแต่งด้วยกระเบื้องสีเขียวลวดลายโมเสกค่ะ ซึ่งแม้จะดูสวยงามแต่ก็ทำให้ห้องน้ำดูมืดขึ้นไปอีกโดยรวมแล้วห้องน้ำดูมีฟังก์ชันครบ แต่บรรยากาศโดยรวมอาจจะดูอึดอัดและต้องการการดูแลทำความสะอาดเพิ่มเติมเพื่อให้ดูโปร่งโล่งและสะอาดมากขึ้นค่ะ
ถัดมาที่ห้องครัวกันบ้างค่ะ สำหรับห้องนี้จะได้เป็นครัวปิดค่ะ ซึ่งต้องบอกว่าภายในนั้นค่อนข้างดูดีค่ะ แต่อาจจะดูเรียบๆ ไปหน่อย ซึ่งหลังจากที่เรา renovate เนี้ย มารอติดตามกันค่ะว่าห้องนี้จะน่าสนใจอย่างไรบ้าง
ถัดมาจะเป็นในส่วนของระเบียงค่ะ โดยรวมแล้วระเบียงอาจจะไม่ได้กว้างมากค่ะ แต่ก็มีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าได้ค่ะ
สุดท้ายจะเป็นในส่วนของห้องนอนค่ะ และอย่างที่บอกเนื่องจากว่าห้องนี้ไม่ได้มีเฟอร์นิเจอร์ หรือ บิ้วอินอะไรมาให้เลยนะคะ ก็จะเป็นห้องเปล่าๆ โล่งๆ เลย
ข้อดีของห้องนอนก็คือจะมีหน้าต่าง และ ช่องแสงธรรมขาติที่เดียวกัน ก็จะทำให้ห้องดูไม่เล็ก และ ไม่ทึบแสงจนเกินไปค่ะ
และอย่างที่บอกนะคะว่า ห้องนี้น้อง Genie ได้ทำการ Renovate ใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการทาสีห้องใหม่เพื่อให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้า ตกแต่ง เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ทั้งหมด ซึ่งห้องเสร็จแล้วจะเป็นอย่างไรนั้น มาติดตามชมได้ในหัวข้อต่อไปเลยค่ะ

1 Bedroom ขนาด 37.38 ชั้น 2
ข้อมูลประกอบ VR
สำหรับห้องที่น้อง Genie จะพาไปชมนะคะจะเป็น Type 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด
37.38 ตร.ม. ชั้น 2 ค่ะ ซึ่งห้องนี้จะเป็นห้องก่อนที่น้อง Genie จะเข้าไปทำการตกแต่งนะคะ
ลักษณะห้องแบบเดิม
👍 ห้องมีพื้นที่ค่อนข้างเล็ก ซึ่งอาจทำให้การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ทำได้ยาก และมีพื้นที่ใช้งานไม่มากนัก
👍 แม้ว่าจะมีประตูกระจกบานเลื่อน แต่ตำแหน่งของอาคารรอบๆ และขนาดของหน้าต่างอาจทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้ไม่เพียงพอ
👍 มีคราบหรือรอยเปื้อนที่กระจกและบางจุดของผนัง ทำให้ห้องดูเก่า
👍 พื้นไม้ลามิเนตและผนังสีขาวล้วน ทำให้ห้องขาดความโดดเด่น
สำหรับห้องนี้นะคะ ก่อนที่น้อง Genie จะเข้ามาตกแต่ง และ ขายแบบครบวงจร ห้องเดิมต้องบอกว่าเป็นลักษณะห้องเปล่าๆ เลย ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ และไม่ได้มีการเข้ามาบำรุงเลยค่ะ แต่โดยรวมก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีค่ะ
ภายในห้องนั่งเล่นดูโปร่งโล่ง และ มีบรรยากาศสบาย ๆ ด้วยผนังสีขาวที่ช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น พื้นเป็นไม้ลามิเนตสีอ่อน ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเข้ากับแสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามาผ่านประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ ซึ่งนำไปสู่ระเบียงด้านนอก จากมุมนี้สามารถมองเห็นวิวของอาคารและต้นไม้ภายนอกได้ค่ะ
บริเวณมุมห้องมีปลั๊กไฟติดตั้งไว้หลายจุด สะดวกสำหรับการจัดวางเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ใกล้กับประตูทางเข้า มีพื้นที่เล็ก ๆ ซึ่งสามารถใช้เป็นมุมวางชั้นวางของหรือรองรับเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเติมได้
มาดูในส่วนของห้องน้ำกันบ้างค่ะ เดิมต้องบอกก่อนว่าห้องน้ำอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างโอเคเลย แต่จะมีส่วนของกระจกที่มีคราบ และ รอยเปื้อนค่อนข้างชัดเจน ซึ่งอาจทำให้ห้องน้ำดูไม่สะอาดเท่าที่ควร อีกทั้งไฟในห้องน้ำก็เสียทั้งหมดเลยค่ะ ทำให้เราต้องเข้าไปเพิ่มไฟ เพื่อให้ห้องน้ำดูสว่างมากขึ้น
ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีผนังตกแต่งด้วยกระเบื้องสีเขียวลวดลายโมเสกค่ะ ซึ่งแม้จะดูสวยงามแต่ก็ทำให้ห้องน้ำดูมืดขึ้นไปอีกโดยรวมแล้วห้องน้ำดูมีฟังก์ชันครบ แต่บรรยากาศโดยรวมอาจจะดูอึดอัดและต้องการการดูแลทำความสะอาดเพิ่มเติมเพื่อให้ดูโปร่งโล่งและสะอาดมากขึ้นค่ะ
ถัดมาที่ห้องครัวกันบ้างค่ะ สำหรับห้องนี้จะได้เป็นครัวปิดค่ะ ซึ่งต้องบอกว่าภายในนั้นค่อนข้างดูดีค่ะ แต่อาจจะดูเรียบๆ ไปหน่อย ซึ่งหลังจากที่เรา renovate เนี้ย มารอติดตามกันค่ะว่าห้องนี้จะน่าสนใจอย่างไรบ้าง
ถัดมาจะเป็นในส่วนของระเบียงค่ะ โดยรวมแล้วระเบียงอาจจะไม่ได้กว้างมากค่ะ แต่ก็มีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าได้ค่ะ
สุดท้ายจะเป็นในส่วนของห้องนอนค่ะ และอย่างที่บอกเนื่องจากว่าห้องนี้ไม่ได้มีเฟอร์นิเจอร์ หรือ บิ้วอินอะไรมาให้เลยนะคะ ก็จะเป็นห้องเปล่าๆ โล่งๆ เลย
ข้อดีของห้องนอนก็คือจะมีหน้าต่าง และ ช่องแสงธรรมขาติที่เดียวกัน ก็จะทำให้ห้องดูไม่เล็ก และ ไม่ทึบแสงจนเกินไปค่ะ
และอย่างที่บอกนะคะว่า ห้องนี้น้อง Genie ได้ทำการ Renovate ใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการทาสีห้องใหม่เพื่อให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้า ตกแต่ง เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ทั้งหมด ซึ่งห้องเสร็จแล้วจะเป็นอย่างไรนั้น มาติดตามชมได้ในหัวข้อต่อไปเลยค่ะ
1 Bedroom ขนาด 37.38 ตร.ม. ชั้น 2
ข้อมูลประกอบ VR
สำหรับห้องต่อไปนี้นะคะ น้อง Genie จะพาเพื่อนๆ ไปชมจะเป็นห้องเดิม Type 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 37.38 ตร.ม. แต่ทางเราได้ทำการ Renovate ห้องใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่งเริ่มทาสีใหม่ ตกแต่งห้องใหม่ นำเฟอร์นิเจอร์ที่ทันสมัยมาตกแต่งค่ะ
จุดเด่นห้องแบบใหม่
ห้องนี้นะคะ Interior ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแบรนด์หรูอย่าง Hermès✨ ดีไซน์ของห้องสะท้อนเอกลักษณ์ของแบรนด์ผ่านโทนสีส้มอิฐที่โดดเด่น เส้นสายเรขาคณิตและการใช้ไฟซ่อนช่วยสร้างมิติ เปรียบได้กับกระเป๋า Birkin หรือ Kelly ที่ผสานงานฝีมือสุดประณีตเข้ากับดีไซน์ที่เหนือกาลเวลาค่ะ
อย่างที่กล่าวไปแล้วนะคะ ว่าห้องนี้น้อง Genie ได้เข้ามาตกแต่งใหม่ทั้งหมด ซึ่งต้องบอกว่าห้องนี้ได้ตกแต่งในสไตล์ Modern ที่มีการเล่นสีสันของผนัง ทำให้รู้สึกว่าห้องดูมีชีวิตชีวามากขึ้น ค่ะ
เมื่อเราเข้ามาในห้องนะคะ ส่วนแรกที่เราจะเห็นก็คือจะเป็นในส่วนของห้องนั่งเล่น ที่มีมุมรับประทานอาหารด้วยค่ะ
เรามาดูในส่วนที่เป็นโซนรับประทานอาหารก่อนนะคะ จุดเด่นบริเวณนี้คงจะไม่พ้นโคมไฟ Chandelier ห้อยระย้าลงมาด้วยความสวยงาม จะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่อบอุ่นและโรแมนติก โต๊ะอาหารขนาดกะทัดรัดสีดำถูกจัดวางอย่างลงตัว พร้อมเก้าอี้กำมะหยี่สีพีชที่ช่วยเติมความนุ่มนวลให้กับพื้นที่ ทุกองค์ประกอบได้รับการจัดวางอย่างใส่ใจมากๆ ตั้งแต่จานชามสีขาวตัดกับผ้าเช็ดปากสีแดงเข้ม ไปจนถึงแจกันดอกไม้ที่เพิ่มความสดชื่น
และอย่างที่บอกว่าความสวยงามของ Chandelier ดีไซน์สุดล้ำ ช่วยเสริมบรรยากาศให้ดูโมเดิร์นและหรูหรามากๆค่ะ
ถัดมาจะเป็นมุมพักผ่อนที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็นมุมแห่งการผ่อนคลายอย่างแท้จริง โซฟาสีครีมขนาด 2 ที่นั่งเสริมด้วยหมอนอิงหลากสีสันช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่นและนุ่มนวล ผนังด้านหลังได้รับการตกแต่งอย่างมีศิลปะด้วยโครงสร้างโค้งที่มีไฟซ่อนในตัว ให้แสงสีเหลืองละมุนที่ชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย เหมาะสำหรับการนั่งอ่านหนังสือสักเล่ม และด้วยความโปร่งโล่งจากผ้าม่านโปร่งสีขาวที่ปล่อยให้แสงธรรมชาติลอดผ่าน ทำให้พื้นที่นี้ดูสว่างและมีชีวิตชีวามากขึ้นค่ะ
ถัดจากห้องนั่งเล่นไปจะเป็นในส่วนของระเบียงค่ะ ซึ่งระเบียงของห้องนี้จะไม่ได้กว้างใหญ่มาก แต่ก็สามารถกวางเครื่องซักผ้าขนาด 14 กก. ได้แบบสบายๆ เลยค่ะ หรือจะเปลี่ยนสไตล์ทำเป็นมุมจิบกาแฟตอนเช้า นั่งชมวิวเมือง รถผ่านไป-มา ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบค่ะ
มาต่อกันที่ห้องครัวนะคะ ต้องบอกว่าหากเพื่อนๆ รับชมผ่าน VR Tour นะคะ จะเห็นว่า พื้นที่ในการทำอาหารนั้นไม่ได้แคบเลยค่ะ พื้นที่ทำอาหารกำลังพอดีเลย ที่สำคัญทางน้อง Genie ได้มีการเปลี่ยนเคาท์เตอร์ครัวให้ใหม่ทั้งหมดเลยค่ะ
สำหรับห้องครัวนี้ จะได้ในรูปแบบครัวปิดค่ะ สามารถปิดกั้นระหว่างห้องนั่งเล่น และ ห้องครัวได้ แต่ไม่ต้องกังวลในเรื่องกลิ่นอับนะคะ เพราะว่านอกจากจะมีเครื่องดูดควันแล้ว ยังมีหน้าต่างระบายอากาศที่ค่อนข้างใหญ่เลย เวลาทำอาหารก็สามารถเปิดเพื่อระบายกลิ่นได้เลยค่ะ
สำหรับฝั่งตรงข้ามห้องครัวจะเป็นในส่วนของห้องน้ำค่ะ จะแยกโซนแห้ง และ โซนเปียกให้อย่างชัดเจน โดยโซนเปียกจะมีฉากกั้นอาบน้ำ มีประตูปิด อาบน้ำได้แบบสบายๆ น้ำไม่กระเซ็นแน่นอนค่ะ
ในส่วนของสายฉีดชำระ และ สายฝักบัว Shower น้อง Genie ก็เปลี่ยนใหม่ให้ทั้งหมดเลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนบานกระจกเงาให้ใหม่กริบ มองเห็นแบบชัดเจน 400% ไปเลยค่ะ ^^
ห้องต่อไปนะคะ น้อง Genie จะพาไปดูห้องนอนกันค่าาา ^^ อย่างที่บอกนะคะว่าห้องนอน เดิมทีจะเป็นห้องเปล่าๆ เลยไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรเลยนะคะ แต่ห้องรูปแบบใหม่ที่ทีม Interior ของเรานั้นได้ออกแบบมาให้เป็นพื้นที่พักผ่อนที่อบอุ่น ดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ การเลือกใช้โทนสีอบอุ่นอย่างน้ำตาล ส้มอิฐ และขาว จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและรู้สึกถึงความหรูหราไปพร้อมๆ กัน
จุดเด่นของห้องนี้อยู่ที่ผนังหัวเตียงที่ได้รับการออกแบบอย่างประณีตด้วยโครงสร้างไม้และไฟซ่อนที่ให้แสงนวลตา เสริมมิติให้ห้องดูกว้างและมีความลึกมากขึ้น
มุมโต๊ะเครื่องแป้งที่ออกแบบมาให้มีความเรียบง่ายแต่แฝงด้วยความโมเดิร์น ด้วยกระจกทรงโค้งและไฟ LED ที่ช่วยให้มุมนี้ดูสวยงามและใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้นค่ะ
ในส่วนของตู้เสื้อผ้าน้อง Genie ก็บิ้วอินให้ใหม่ทั้งหมดค่ะ มีพื้นที่เก็บของที่ซ่อนอยู่ภายในช่วยให้ห้องดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น รับรองว่าถูกใจคุณสาวๆ อย่างแน่นอน เพราะสามารถเก็บเสื้อผ้าได้มากกว่า 100 ชุดเลยค่ะ ^^ นอกจากนี้ยังช่วยให้พื้นที่ใช้สอยอื่น ๆ ดูกว้างขวางมากขึ้นอีกค่ะ
เป็นอย่างไรบ้างคะกับห้องที่น้อง Genie ได้เข้าไปทำการตกแต่ง รีโนเวท ใหม่ทั้งหมด ต้องบอกว่ามีความแตกต่างกับห้องเดิมเป็นอย่างมาก แต่ถ้าเพื่อนๆ คนไหนที่อาจจะยังมองภาพไม่ออกน้อง Genie เตรียมภาพ before&after แบบเทียบ Shot ต่อ Shot มาฝากด้วยค่ะ ไปดูกันเล้ยยย ^^
ห้องนั่งเล่น
ห้องน้ำ
ห้องครัว
ห้องนอน

1 Bedroom ขนาด 37.38 ตร.ม. ชั้น 2
ข้อมูลประกอบ VR
สำหรับห้องต่อไปนี้นะคะ น้อง Genie จะพาเพื่อนๆ ไปชมจะเป็นห้องเดิม Type 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 37.38 ตร.ม. แต่ทางเราได้ทำการ Renovate ห้องใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่งเริ่มทาสีใหม่ ตกแต่งห้องใหม่ นำเฟอร์นิเจอร์ที่ทันสมัยมาตกแต่งค่ะ
จุดเด่นห้องแบบใหม่
ห้องนี้นะคะ Interior ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแบรนด์หรูอย่าง Hermès✨ ดีไซน์ของห้องสะท้อนเอกลักษณ์ของแบรนด์ผ่านโทนสีส้มอิฐที่โดดเด่น เส้นสายเรขาคณิตและการใช้ไฟซ่อนช่วยสร้างมิติ เปรียบได้กับกระเป๋า Birkin หรือ Kelly ที่ผสานงานฝีมือสุดประณีตเข้ากับดีไซน์ที่เหนือกาลเวลาค่ะ
อย่างที่กล่าวไปแล้วนะคะ ว่าห้องนี้น้อง Genie ได้เข้ามาตกแต่งใหม่ทั้งหมด ซึ่งต้องบอกว่าห้องนี้ได้ตกแต่งในสไตล์ Modern ที่มีการเล่นสีสันของผนัง ทำให้รู้สึกว่าห้องดูมีชีวิตชีวามากขึ้น ค่ะ
เมื่อเราเข้ามาในห้องนะคะ ส่วนแรกที่เราจะเห็นก็คือจะเป็นในส่วนของห้องนั่งเล่น ที่มีมุมรับประทานอาหารด้วยค่ะ
เรามาดูในส่วนที่เป็นโซนรับประทานอาหารก่อนนะคะ จุดเด่นบริเวณนี้คงจะไม่พ้นโคมไฟ Chandelier ห้อยระย้าลงมาด้วยความสวยงาม จะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่อบอุ่นและโรแมนติก โต๊ะอาหารขนาดกะทัดรัดสีดำถูกจัดวางอย่างลงตัว พร้อมเก้าอี้กำมะหยี่สีพีชที่ช่วยเติมความนุ่มนวลให้กับพื้นที่ ทุกองค์ประกอบได้รับการจัดวางอย่างใส่ใจมากๆ ตั้งแต่จานชามสีขาวตัดกับผ้าเช็ดปากสีแดงเข้ม ไปจนถึงแจกันดอกไม้ที่เพิ่มความสดชื่น
และอย่างที่บอกว่าความสวยงามของ Chandelier ดีไซน์สุดล้ำ ช่วยเสริมบรรยากาศให้ดูโมเดิร์นและหรูหรามากๆค่ะ
ถัดมาจะเป็นมุมพักผ่อนที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็นมุมแห่งการผ่อนคลายอย่างแท้จริง โซฟาสีครีมขนาด 2 ที่นั่งเสริมด้วยหมอนอิงหลากสีสันช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่นและนุ่มนวล ผนังด้านหลังได้รับการตกแต่งอย่างมีศิลปะด้วยโครงสร้างโค้งที่มีไฟซ่อนในตัว ให้แสงสีเหลืองละมุนที่ชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย เหมาะสำหรับการนั่งอ่านหนังสือสักเล่ม และด้วยความโปร่งโล่งจากผ้าม่านโปร่งสีขาวที่ปล่อยให้แสงธรรมชาติลอดผ่าน ทำให้พื้นที่นี้ดูสว่างและมีชีวิตชีวามากขึ้นค่ะ
ถัดจากห้องนั่งเล่นไปจะเป็นในส่วนของระเบียงค่ะ ซึ่งระเบียงของห้องนี้จะไม่ได้กว้างใหญ่มาก แต่ก็สามารถกวางเครื่องซักผ้าขนาด 14 กก. ได้แบบสบายๆ เลยค่ะ หรือจะเปลี่ยนสไตล์ทำเป็นมุมจิบกาแฟตอนเช้า นั่งชมวิวเมือง รถผ่านไป-มา ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบค่ะ
มาต่อกันที่ห้องครัวนะคะ ต้องบอกว่าหากเพื่อนๆ รับชมผ่าน VR Tour นะคะ จะเห็นว่า พื้นที่ในการทำอาหารนั้นไม่ได้แคบเลยค่ะ พื้นที่ทำอาหารกำลังพอดีเลย ที่สำคัญทางน้อง Genie ได้มีการเปลี่ยนเคาท์เตอร์ครัวให้ใหม่ทั้งหมดเลยค่ะ
สำหรับห้องครัวนี้ จะได้ในรูปแบบครัวปิดค่ะ สามารถปิดกั้นระหว่างห้องนั่งเล่น และ ห้องครัวได้ แต่ไม่ต้องกังวลในเรื่องกลิ่นอับนะคะ เพราะว่านอกจากจะมีเครื่องดูดควันแล้ว ยังมีหน้าต่างระบายอากาศที่ค่อนข้างใหญ่เลย เวลาทำอาหารก็สามารถเปิดเพื่อระบายกลิ่นได้เลยค่ะ
สำหรับฝั่งตรงข้ามห้องครัวจะเป็นในส่วนของห้องน้ำค่ะ จะแยกโซนแห้ง และ โซนเปียกให้อย่างชัดเจน โดยโซนเปียกจะมีฉากกั้นอาบน้ำ มีประตูปิด อาบน้ำได้แบบสบายๆ น้ำไม่กระเซ็นแน่นอนค่ะ
ในส่วนของสายฉีดชำระ และ สายฝักบัว Shower น้อง Genie ก็เปลี่ยนใหม่ให้ทั้งหมดเลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนบานกระจกเงาให้ใหม่กริบ มองเห็นแบบชัดเจน 400% ไปเลยค่ะ ^^
ห้องต่อไปนะคะ น้อง Genie จะพาไปดูห้องนอนกันค่าาา ^^ อย่างที่บอกนะคะว่าห้องนอน เดิมทีจะเป็นห้องเปล่าๆ เลยไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรเลยนะคะ แต่ห้องรูปแบบใหม่ที่ทีม Interior ของเรานั้นได้ออกแบบมาให้เป็นพื้นที่พักผ่อนที่อบอุ่น ดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ การเลือกใช้โทนสีอบอุ่นอย่างน้ำตาล ส้มอิฐ และขาว จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและรู้สึกถึงความหรูหราไปพร้อมๆ กัน
จุดเด่นของห้องนี้อยู่ที่ผนังหัวเตียงที่ได้รับการออกแบบอย่างประณีตด้วยโครงสร้างไม้และไฟซ่อนที่ให้แสงนวลตา เสริมมิติให้ห้องดูกว้างและมีความลึกมากขึ้น
มุมโต๊ะเครื่องแป้งที่ออกแบบมาให้มีความเรียบง่ายแต่แฝงด้วยความโมเดิร์น ด้วยกระจกทรงโค้งและไฟ LED ที่ช่วยให้มุมนี้ดูสวยงามและใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้นค่ะ
ในส่วนของตู้เสื้อผ้าน้อง Genie ก็บิ้วอินให้ใหม่ทั้งหมดค่ะ มีพื้นที่เก็บของที่ซ่อนอยู่ภายในช่วยให้ห้องดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น รับรองว่าถูกใจคุณสาวๆ อย่างแน่นอน เพราะสามารถเก็บเสื้อผ้าได้มากกว่า 100 ชุดเลยค่ะ ^^ นอกจากนี้ยังช่วยให้พื้นที่ใช้สอยอื่น ๆ ดูกว้างขวางมากขึ้นอีกค่ะ
เป็นอย่างไรบ้างคะกับห้องที่น้อง Genie ได้เข้าไปทำการตกแต่ง รีโนเวท ใหม่ทั้งหมด ต้องบอกว่ามีความแตกต่างกับห้องเดิมเป็นอย่างมาก แต่ถ้าเพื่อนๆ คนไหนที่อาจจะยังมองภาพไม่ออกน้อง Genie เตรียมภาพ before&after แบบเทียบ Shot ต่อ Shot มาฝากด้วยค่ะ ไปดูกันเล้ยยย ^^
ห้องนั่งเล่น
ห้องน้ำ
ห้องครัว
ห้องนอน
1 Bedroom ขนาด 37.32 ชั้น 7
ข้อมูลประกอบ VR
สำหรับห้องที่น้อง Genie จะพาไปชมนะคะจะเป็น Type 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด
37.32 ตร.ม. ชั้น 7 ค่ะ ซึ่งห้องนี้จะเป็นห้องก่อนที่น้อง Genie จะเข้าไปทำการตกแต่งนะคะ
ลักษณะห้องแบบเดิม
👍 ห้องนั่งเล่นค่อนข้างโล่งจนเกินไป โต๊ะหน้าทีวีดูเล็กและเตี้ยเมื่อเทียบกับโซฟาขนาดใหญ่ ทำให้ใช้งานได้ไม่สะดวก
👍 ประตูห้องดูมีร่องรอยการใช้งาน และบานพับประตูดูไม่แน่นหนา
👍 พื้นบางจุดสะท้อนแสงมาก อาจเป็นเพราะการเลือกวัสดุที่ไม่ค่อยเหมาะกับแสงไฟ
👍 ตู้เก็บของสีขาว-ฟ้าที่อยู่ข้างตู้เย็น ดูไม่เข้ากับสไตล์ของห้อง ทำให้ภาพรวมดูขัดแย้งและไม่เป็นระเบียบ
👍 ผนังที่ตกแต่งด้วยสติกเกอร์ลายใบไม้ในห้องนั่งเล่น ดูไม่เข้ากับสไตล์ของห้องและอาจทำให้ดูเชยแทนที่จะเพิ่มความสวยงาม
สำหรับห้องนี้ค่อนข้างมีเอกลักษณ์ ด้วยผนังสีฟ้าสดใสตัดกับผนังสีขาวที่มีลวดลายสติ๊กเกอร์รูปกวางและเถาวัลย์สีดำ ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับห้อง บริเวณนี้มีโซฟาหนังสีน้ำตาลขนาดใหญ่ ตั้งชิดผนัง เหมาะสำหรับการนั่งพักผ่อน
แต่อย่างไรก็ตามหากจัดห้อง และ วางเฟอร์นิเจอร์ในลักษณะนี้ก็อาจจะทำให้ห้องดูแคบ มืดมนด้วยสีฟ้าที่เป็นสีเฉพาะกลุ่ม จะไม่ค่อยถูกมานำทาสีผนังห้องเดี่ยวๆ แบบนี้ค่ะ
ห้องถัดมาที่อยู่ใกล้กับโซนนั่งเล่นนะคะ จะเป็นในส่วนของห้องครัวค่ะ เดิมทีห้องนี้จะได้เป็นแบบครัวเปิดนะคะ แต่ทางโครงการก็จะให้ที่ดูดควัน เพื่อป้องกันกลิ่นเวลาทำอาหารด้วยค่ะ
แต่สำหรับน้อง Genie คิดว่าครัวเปิดของห้องนี้ อาจจะทำอาหารได้ไม่สะใจเท่าไหร่ ยังไงมารอติดตามดูกันนะคะ ว่าหลังจากที่เรา renovate เนี้ยห้องนี้จะน่าสนใจอย่างไรบ้าง
ฝั่งตรงข้ามห้องครัวจะเป็นในส่วนของห้องน้ำค่ะ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าแปลนห้องชั้น 7 กับชั้น 2 ที่เรามา renovate นั้นจะคล้ายๆ กันเลยค่ะ ห้องน้ำก็มาในรูปแบบที่สภาพดีเลย แยกโซนเปียก - โซนแห้งอย่างชัดเจน แต่เนื่องด้วยห้องนี้ไม่มีคนอยู่มานานอุปกรณ์บางอย่างในห้องน้ำ เช่น สายฉีดชำระ สายฝักบัว บานกระจกเงา อาจจะมีการเสื่อมสภาพ ซึ่งต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดค่ะ
ห้องสุดท้ายจะเป็นห้องนอนค่ะ ต้องบอกก่อนว่าสำหรับห้องนอนนั้นมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างเลย บวกกับช่องหน้าต่างที่มีแสงธรรมชาติเข้ามาภายในห้อง ทำให้ห้องดูโล่งโปร่ง สบายตามากๆ ค่ะ
แต่การเลือกโทรสีเขียว ตัดกับสีขาวภายในห้องนั้นอาจทำให้ห้องดูอึดอัดหรือดูเล็กลง โดยเฉพาะหากมีการใช้สีเขียวในพื้นที่กว้าง สีขาวอาจช่วยเบรกได้บ้าง แต่ถ้าตัดกันมากเกินไป อาจทำให้ห้องดูแข็งกระด้างได้ค่ะ
ห้องนี้น้อง Genie ได้ทำการ Renovate ใหม่ทั้งหมด เปลี่ยนสุขภัณฑ์ การทาสีห้องใหม่เพื่อให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ตกแต่ง เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ทั้งหมด ซึ่งห้องเสร็จแล้วจะเป็นอย่างไรนั้น มาติดตามชมได้ในหัวข้อต่อไปเลยค่ะ

1 Bedroom ขนาด 37.32 ชั้น 7
ข้อมูลประกอบ VR
สำหรับห้องที่น้อง Genie จะพาไปชมนะคะจะเป็น Type 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด
37.32 ตร.ม. ชั้น 7 ค่ะ ซึ่งห้องนี้จะเป็นห้องก่อนที่น้อง Genie จะเข้าไปทำการตกแต่งนะคะ
ลักษณะห้องแบบเดิม
👍 ห้องนั่งเล่นค่อนข้างโล่งจนเกินไป โต๊ะหน้าทีวีดูเล็กและเตี้ยเมื่อเทียบกับโซฟาขนาดใหญ่ ทำให้ใช้งานได้ไม่สะดวก
👍 ประตูห้องดูมีร่องรอยการใช้งาน และบานพับประตูดูไม่แน่นหนา
👍 พื้นบางจุดสะท้อนแสงมาก อาจเป็นเพราะการเลือกวัสดุที่ไม่ค่อยเหมาะกับแสงไฟ
👍 ตู้เก็บของสีขาว-ฟ้าที่อยู่ข้างตู้เย็น ดูไม่เข้ากับสไตล์ของห้อง ทำให้ภาพรวมดูขัดแย้งและไม่เป็นระเบียบ
👍 ผนังที่ตกแต่งด้วยสติกเกอร์ลายใบไม้ในห้องนั่งเล่น ดูไม่เข้ากับสไตล์ของห้องและอาจทำให้ดูเชยแทนที่จะเพิ่มความสวยงาม
สำหรับห้องนี้ค่อนข้างมีเอกลักษณ์ ด้วยผนังสีฟ้าสดใสตัดกับผนังสีขาวที่มีลวดลายสติ๊กเกอร์รูปกวางและเถาวัลย์สีดำ ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับห้อง บริเวณนี้มีโซฟาหนังสีน้ำตาลขนาดใหญ่ ตั้งชิดผนัง เหมาะสำหรับการนั่งพักผ่อน
แต่อย่างไรก็ตามหากจัดห้อง และ วางเฟอร์นิเจอร์ในลักษณะนี้ก็อาจจะทำให้ห้องดูแคบ มืดมนด้วยสีฟ้าที่เป็นสีเฉพาะกลุ่ม จะไม่ค่อยถูกมานำทาสีผนังห้องเดี่ยวๆ แบบนี้ค่ะ
ห้องถัดมาที่อยู่ใกล้กับโซนนั่งเล่นนะคะ จะเป็นในส่วนของห้องครัวค่ะ เดิมทีห้องนี้จะได้เป็นแบบครัวเปิดนะคะ แต่ทางโครงการก็จะให้ที่ดูดควัน เพื่อป้องกันกลิ่นเวลาทำอาหารด้วยค่ะ
แต่สำหรับน้อง Genie คิดว่าครัวเปิดของห้องนี้ อาจจะทำอาหารได้ไม่สะใจเท่าไหร่ ยังไงมารอติดตามดูกันนะคะ ว่าหลังจากที่เรา renovate เนี้ยห้องนี้จะน่าสนใจอย่างไรบ้าง
ฝั่งตรงข้ามห้องครัวจะเป็นในส่วนของห้องน้ำค่ะ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าแปลนห้องชั้น 7 กับชั้น 2 ที่เรามา renovate นั้นจะคล้ายๆ กันเลยค่ะ ห้องน้ำก็มาในรูปแบบที่สภาพดีเลย แยกโซนเปียก - โซนแห้งอย่างชัดเจน แต่เนื่องด้วยห้องนี้ไม่มีคนอยู่มานานอุปกรณ์บางอย่างในห้องน้ำ เช่น สายฉีดชำระ สายฝักบัว บานกระจกเงา อาจจะมีการเสื่อมสภาพ ซึ่งต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดค่ะ
ห้องสุดท้ายจะเป็นห้องนอนค่ะ ต้องบอกก่อนว่าสำหรับห้องนอนนั้นมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างเลย บวกกับช่องหน้าต่างที่มีแสงธรรมชาติเข้ามาภายในห้อง ทำให้ห้องดูโล่งโปร่ง สบายตามากๆ ค่ะ
แต่การเลือกโทรสีเขียว ตัดกับสีขาวภายในห้องนั้นอาจทำให้ห้องดูอึดอัดหรือดูเล็กลง โดยเฉพาะหากมีการใช้สีเขียวในพื้นที่กว้าง สีขาวอาจช่วยเบรกได้บ้าง แต่ถ้าตัดกันมากเกินไป อาจทำให้ห้องดูแข็งกระด้างได้ค่ะ
ห้องนี้น้อง Genie ได้ทำการ Renovate ใหม่ทั้งหมด เปลี่ยนสุขภัณฑ์ การทาสีห้องใหม่เพื่อให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ตกแต่ง เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ทั้งหมด ซึ่งห้องเสร็จแล้วจะเป็นอย่างไรนั้น มาติดตามชมได้ในหัวข้อต่อไปเลยค่ะ
ข้อมูลประกอบ VR
สำหรับห้องต่อไปนี้นะคะ น้อง Genie จะพาเพื่อนๆ ไปชมจะเป็นห้องเดิม Type 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 37.32 ตร.ม. แต่ทางเราได้ทำการ Renovate ห้องใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่งเริ่มทาสีใหม่ ตกแต่งห้องใหม่ นำเฟอร์นิเจอร์ที่ทันสมัยมาตกแต่งค่ะ
จุดเด่นห้องแบบใหม่
ห้องนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากแบรนด์หรูอย่าง Chanel ออกแบบโดยใช้โทนสี ขาว ดำ เทา เรียบง่ายแต่สง่างาม ความคลาสสิกที่ไร้กาลเวลา ให้ความรู้สึกที่หรูหรา สงบ และมีระดับ เสริมด้วยการใช้วัสดุที่มีพื้นผิวสัมผัสที่หลากหลายทำให้เกิดมิติที่ดูซับซ้อนและมีเสน่ห์ในแบบของ Chanel ที่มักเรียบหรู แต่เต็มไปด้วยรายละเอียด
ห้องนี้ตกแต่งในโทนสีครีม ทอง และดำ เพิ่มความหรูหราแต่ยังคงความอบอุ่น เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินที่ออกแบบมาอย่างประณีตช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัย มีการแบ่งสัดส่วนของพื้นที่ได้อย่างลงตัว เช่น การใช้ผนังกระจกกั้นระหว่างครัวและห้องนั่งเล่น เพื่อให้ได้ความรู้สึกโล่งโปร่ง ไม่อึดอัด พร้อมทั้งช่วยลดกลิ่นรบกวนจากการทำอาหารค่ะ
จุดแรกที่น้อง Genie จะพาไปชมนะคะ จะเป็นโซนรับประทานอาหารค่ะ โดยมุมนี้จะถูกจัดไว้สำหรับ 2 ที่นั่ง ด้วยโต๊ะกลมสีดำ และเก้าอี้กำมะหยี่สีส้มอิฐ ช่วยเพิ่มสีสันให้กับห้อง ทำให้มื้ออาหารของคุณดูพิเศษขึ้น
ที่พิเศษกว่านั้นน้อง Genie ได้กรุผนังซ่อนไฟขึ้นมาใหม่ และเพิ่มการติดคิ้ว และกระจก ตกแต่งด้วย SCP ลายหินอ่อน บอกเลยค่ะว่างานนี้ถูกใจสาวๆ ได้ภาพสวยๆ โพสต์ลง IG เพียบเลยค่ะ
ถัดจากมุมทานข้าว จะเป็นโซนของมุมพักผ่อน ด้วยการจัดวางโซฟาสีครีมขนาดกำลังดี พร้อมหมอนอิงที่เพิ่มความนุ่มสบาย บรรยากาศโดยรวมให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย เหมาะสำหรับการนั่งเล่น ดูหนัง หรืออ่านหนังสือ
สำหรับตรงบริเวนชั้นวางทีวี น้อง Genie ก็กรุผนัง และ ตกแต่งด้วย SCP ลายหินอ่อน เช่นเดียวกันค่ะ
ถัดจากห้องนั่งเล่นไปจะเป็นในส่วนของระเบียงค่ะ ระเบียงห้องนี้ก็จะคล้ายๆ กับห้องที่ผ่านมาเลยค่ะ จะไม่ได้มีขนาดที่กว้างมาก แต่ก็สามารถจัดให้เป็นมุมโปรดได้ เช่น มุมอ่านหนังสือ ชมวิวรถผ่านไป-มา หรือ จะเพิ่มให้เป็นพื้นที่ใช้งานสำหรับวางเครื่องซักผ้า ก็สามารถวางเครื่องซักผ้าขนาด 14 - 15 กก. ได้เลยค่ะ
มาต่อกันที่ห้องครัวค่ะ ต้องบอกว่าห้องนี้น้อง Genie ชอบห้องครัวมากๆ ให้ความรู้สึกโมเดิร์นและเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความหรูหรา ด้วยดีไซน์โทนสีเทาและกระเบื้องสีขาวที่ช่วยเพิ่มความโล่ง มีกระจกบานเลื่อนกรอบสีดำที่แยกครัวออกจากโซนห้องนั่งเล่นได้อย่างลงตัว
และยังเก็บกลิ่นไม่ให้รบกวนด้านนอก ถูกใจแม่บ้าน พ่อบ้านที่ชอบทำอาหารแน่นอนค่ะ และการที่น้อง Genie กั้นห้องครัวด้วยบานเลื่อนกรอบสีดำ ที่สามารถมองเห็นเวลาทำอาหารแล้วนั้น ยังช่วยทำให้ห้องได้แสงสว่างจากด้านนอกเข้าด้วยค่ะ ทำให้ห้องดูไม่อึมครึมค่ะ
เรามาดูในส่วนของห้องน้ำกันบ้างคะ สำหรับห้องน้ำ น้อง Genie ก็เปลี่ยนสายฉีดชำระ สายฝักบัว ให้ใหม่หมดเลยค่ะ และหากเพื่อนๆ สังเกตเห็นจาก VR ห้องเดิมนะคะ ที่มีผนังสีเขียวน้อง Genie ก็ได้นำออก และเปลี่ยนเป็นการติดกระเบื้องแผ่นใหญ่ คุมโทนสีเดียวกับห้องน้ำ เพื่อให้ดูกลมกลืนและสวยงามมากขึ้นค่ะ
สุดท้ายน้อง Genie จะพาไปชมห้องนอนกันค่าา ต้องบอกว่าห้องนี้ไม่ใช่แค่ห้องนอนธรรมดา แต่เป็นพื้นที่แห่งการพักผ่อนที่สะท้อนตัวตนของผู้อยู่อาศัยได้อย่างสมบูรณ์แบบเลยค่ะ ด้วยการออกแบบที่ทันสมัย ผสานกับความอบอุ่นและฟังก์ชันที่ครบครัน ทำให้ห้องนี้เป็นมากกว่าห้องนอน แต่เป็นพื้นที่ที่ให้ความรู้สึกพิเศษในทุก ๆ วัน
ดีไซน์ที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์การเลือกใช้โทนสีสีครีม ขาว น้ำตาล และดำ สร้างความรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย แต่ยังคงแฝงไว้ด้วยความหรูหราและมีสไตล์ ซึ่งห้องนี้ Interior Design ของเราได้รับแรงบันดาลใจมาจาก แบรนด์หรูอย่าง Chanel เรียบง่ายแต่สง่างาม ความคลาสสิกที่ไร้กาลเวลา ให้ความรู้สึกที่หรูหรา สงบ และมีระดับ เสริมด้วยการใช้วัสดุที่มีพื้นผิวสัมผัสที่หลากหลายทำให้เกิดมิติที่ดูซับซ้อนและมีเสน่ห์ในแบบของ Chanel ที่มักเรียบหรู แต่เต็มไปด้วยรายละเอียด
หัวเตียงที่โดดเด่นเป็นจุดศูนย์กลางของห้อง ด้วยกรอบไฟ LED ซ่อนอยู่บริเวณผนังหัวเตียง ทำให้พื้นที่นี้มีมิติและดูโดดเด่นมากขึ้น บวกกับกระจกทรงโค้งที่ติดตั้งขนาบข้าง ช่วยสะท้อนแสงและเพิ่มความรู้สึกกว้างขวางของห้องได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
สำหรับตู้เสื้อผ้าก็จัดให้แบบยิ่งใหญ่เลยค่ะ โดยเลือกใช้วัสดุปิดผิวจาก SB Furniture ถูกใจคุณผู้หญิงที่มีเสื้อผ้าเยอะๆ เลยหล่ะค่ะ ^^
และอีกเช่นเคยค่ะ น้อง Genie ก็เตรียมภาพเทียบแบบ Shot ต่อ Shot เป็นภาพ before after มาฝากด้วย เผื่อเพื่อนคนไหนที่ยังมองไม่ชัดเจนว่าเราแต่งห้องใหม่ทั้งหมดจะมีความแตกต่างอย่างไร ไปดูพร้อมกันเลยค่ะ
ห้องนั่งเล่น
ห้องน้ำ
ห้องครัว
ห้องนอน

ข้อมูลประกอบ VR
สำหรับห้องต่อไปนี้นะคะ น้อง Genie จะพาเพื่อนๆ ไปชมจะเป็นห้องเดิม Type 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 37.32 ตร.ม. แต่ทางเราได้ทำการ Renovate ห้องใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่งเริ่มทาสีใหม่ ตกแต่งห้องใหม่ นำเฟอร์นิเจอร์ที่ทันสมัยมาตกแต่งค่ะ
จุดเด่นห้องแบบใหม่
ห้องนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากแบรนด์หรูอย่าง Chanel ออกแบบโดยใช้โทนสี ขาว ดำ เทา เรียบง่ายแต่สง่างาม ความคลาสสิกที่ไร้กาลเวลา ให้ความรู้สึกที่หรูหรา สงบ และมีระดับ เสริมด้วยการใช้วัสดุที่มีพื้นผิวสัมผัสที่หลากหลายทำให้เกิดมิติที่ดูซับซ้อนและมีเสน่ห์ในแบบของ Chanel ที่มักเรียบหรู แต่เต็มไปด้วยรายละเอียด
ห้องนี้ตกแต่งในโทนสีครีม ทอง และดำ เพิ่มความหรูหราแต่ยังคงความอบอุ่น เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินที่ออกแบบมาอย่างประณีตช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัย มีการแบ่งสัดส่วนของพื้นที่ได้อย่างลงตัว เช่น การใช้ผนังกระจกกั้นระหว่างครัวและห้องนั่งเล่น เพื่อให้ได้ความรู้สึกโล่งโปร่ง ไม่อึดอัด พร้อมทั้งช่วยลดกลิ่นรบกวนจากการทำอาหารค่ะ
จุดแรกที่น้อง Genie จะพาไปชมนะคะ จะเป็นโซนรับประทานอาหารค่ะ โดยมุมนี้จะถูกจัดไว้สำหรับ 2 ที่นั่ง ด้วยโต๊ะกลมสีดำ และเก้าอี้กำมะหยี่สีส้มอิฐ ช่วยเพิ่มสีสันให้กับห้อง ทำให้มื้ออาหารของคุณดูพิเศษขึ้น
ที่พิเศษกว่านั้นน้อง Genie ได้กรุผนังซ่อนไฟขึ้นมาใหม่ และเพิ่มการติดคิ้ว และกระจก ตกแต่งด้วย SCP ลายหินอ่อน บอกเลยค่ะว่างานนี้ถูกใจสาวๆ ได้ภาพสวยๆ โพสต์ลง IG เพียบเลยค่ะ
ถัดจากมุมทานข้าว จะเป็นโซนของมุมพักผ่อน ด้วยการจัดวางโซฟาสีครีมขนาดกำลังดี พร้อมหมอนอิงที่เพิ่มความนุ่มสบาย บรรยากาศโดยรวมให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย เหมาะสำหรับการนั่งเล่น ดูหนัง หรืออ่านหนังสือ
สำหรับตรงบริเวนชั้นวางทีวี น้อง Genie ก็กรุผนัง และ ตกแต่งด้วย SCP ลายหินอ่อน เช่นเดียวกันค่ะ
ถัดจากห้องนั่งเล่นไปจะเป็นในส่วนของระเบียงค่ะ ระเบียงห้องนี้ก็จะคล้ายๆ กับห้องที่ผ่านมาเลยค่ะ จะไม่ได้มีขนาดที่กว้างมาก แต่ก็สามารถจัดให้เป็นมุมโปรดได้ เช่น มุมอ่านหนังสือ ชมวิวรถผ่านไป-มา หรือ จะเพิ่มให้เป็นพื้นที่ใช้งานสำหรับวางเครื่องซักผ้า ก็สามารถวางเครื่องซักผ้าขนาด 14 - 15 กก. ได้เลยค่ะ
มาต่อกันที่ห้องครัวค่ะ ต้องบอกว่าห้องนี้น้อง Genie ชอบห้องครัวมากๆ ให้ความรู้สึกโมเดิร์นและเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความหรูหรา ด้วยดีไซน์โทนสีเทาและกระเบื้องสีขาวที่ช่วยเพิ่มความโล่ง มีกระจกบานเลื่อนกรอบสีดำที่แยกครัวออกจากโซนห้องนั่งเล่นได้อย่างลงตัว
และยังเก็บกลิ่นไม่ให้รบกวนด้านนอก ถูกใจแม่บ้าน พ่อบ้านที่ชอบทำอาหารแน่นอนค่ะ และการที่น้อง Genie กั้นห้องครัวด้วยบานเลื่อนกรอบสีดำ ที่สามารถมองเห็นเวลาทำอาหารแล้วนั้น ยังช่วยทำให้ห้องได้แสงสว่างจากด้านนอกเข้าด้วยค่ะ ทำให้ห้องดูไม่อึมครึมค่ะ
เรามาดูในส่วนของห้องน้ำกันบ้างคะ สำหรับห้องน้ำ น้อง Genie ก็เปลี่ยนสายฉีดชำระ สายฝักบัว ให้ใหม่หมดเลยค่ะ และหากเพื่อนๆ สังเกตเห็นจาก VR ห้องเดิมนะคะ ที่มีผนังสีเขียวน้อง Genie ก็ได้นำออก และเปลี่ยนเป็นการติดกระเบื้องแผ่นใหญ่ คุมโทนสีเดียวกับห้องน้ำ เพื่อให้ดูกลมกลืนและสวยงามมากขึ้นค่ะ
สุดท้ายน้อง Genie จะพาไปชมห้องนอนกันค่าา ต้องบอกว่าห้องนี้ไม่ใช่แค่ห้องนอนธรรมดา แต่เป็นพื้นที่แห่งการพักผ่อนที่สะท้อนตัวตนของผู้อยู่อาศัยได้อย่างสมบูรณ์แบบเลยค่ะ ด้วยการออกแบบที่ทันสมัย ผสานกับความอบอุ่นและฟังก์ชันที่ครบครัน ทำให้ห้องนี้เป็นมากกว่าห้องนอน แต่เป็นพื้นที่ที่ให้ความรู้สึกพิเศษในทุก ๆ วัน
ดีไซน์ที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์การเลือกใช้โทนสีสีครีม ขาว น้ำตาล และดำ สร้างความรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย แต่ยังคงแฝงไว้ด้วยความหรูหราและมีสไตล์ ซึ่งห้องนี้ Interior Design ของเราได้รับแรงบันดาลใจมาจาก แบรนด์หรูอย่าง Chanel เรียบง่ายแต่สง่างาม ความคลาสสิกที่ไร้กาลเวลา ให้ความรู้สึกที่หรูหรา สงบ และมีระดับ เสริมด้วยการใช้วัสดุที่มีพื้นผิวสัมผัสที่หลากหลายทำให้เกิดมิติที่ดูซับซ้อนและมีเสน่ห์ในแบบของ Chanel ที่มักเรียบหรู แต่เต็มไปด้วยรายละเอียด
หัวเตียงที่โดดเด่นเป็นจุดศูนย์กลางของห้อง ด้วยกรอบไฟ LED ซ่อนอยู่บริเวณผนังหัวเตียง ทำให้พื้นที่นี้มีมิติและดูโดดเด่นมากขึ้น บวกกับกระจกทรงโค้งที่ติดตั้งขนาบข้าง ช่วยสะท้อนแสงและเพิ่มความรู้สึกกว้างขวางของห้องได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
สำหรับตู้เสื้อผ้าก็จัดให้แบบยิ่งใหญ่เลยค่ะ โดยเลือกใช้วัสดุปิดผิวจาก SB Furniture ถูกใจคุณผู้หญิงที่มีเสื้อผ้าเยอะๆ เลยหล่ะค่ะ ^^
และอีกเช่นเคยค่ะ น้อง Genie ก็เตรียมภาพเทียบแบบ Shot ต่อ Shot เป็นภาพ before after มาฝากด้วย เผื่อเพื่อนคนไหนที่ยังมองไม่ชัดเจนว่าเราแต่งห้องใหม่ทั้งหมดจะมีความแตกต่างอย่างไร ไปดูพร้อมกันเลยค่ะ
ห้องนั่งเล่น
ห้องน้ำ
ห้องครัว
ห้องนอน

“น้อง Genie เปิดวาร์ปพามาทัวร์! สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ Chateau In Town Vibhavadi 30-2 ที่ต้องบอกว่าจะได้สัมผัสกับความสะดวกสบายของ Facilities ภายในโครงการ”
Facilities
สำหรับทางเข้าโครงการนะคะ จะมีทั้งหมด 2 ทางค่ะ สามารถเข้าทางซอยวิภาวดี 30 และ ซอยพหลโยธิน 21 แต่หากเพื่อนๆ คนไหนที่เดินทางผ่านรถไฟฟ้านะคะ น้อง Genie แนะนำให้เข้าทางซอยพหลโยธิน 21 ค่ะ เพราะออกจาก BTS พหลโยธิน 24 ก็สามารถเดินย้อนมาได้เลย จะเดินเข้าโครงการก็ประมาณ 500 เมตร หรือหากใครไม่อยากเดินก็จะมีพี่วินบริการอยู่ที่หน้าซอยเลยค่ะ เข้าไปโครงการเพียง 10 - 15 บาทเท่านั้น
เมื่อมาถึงที่หน้าโครงการ จะเห็นว่าประตูทางเข้าจะอยู่ด้านหน้า ใกล้ๆ กับพี่ รปภ. เลยค่ะ เราสามารถขึ้นลิฟต์ไปที่ห้องพักอาศัย หรือ ไปยังจุดนั่งรอได้ที่ชั้น 2 ค่ะ
แต่ก่อนที่เราจะสามารถไปยังลิฟต์ หรือ ชั้นพักอาศัยได้นะคะ เราจำเป็นที่จะต้องมีคีย์การ์ดในการเข้าไปยังห้องพักนั่นเองค่ะ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย ไม่ให้คนนอกขึ้นไปตัวอาคารได้นั่นเองค่ะ
ในส่วนของลานจอดรถต้องบอกว่าโครงการนี้ไม่ได้มีที่จอดรถเยอะสักเท่าไหร่นะคะประมาณ 32 คัน แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ สามารถจอดซ้อนคันได้ พี่ๆ รปภ. จัดการให้หายห่วงเลยค่ะ
ที่โครงการจะสามารถจอดรถยนต์ได้ 1 คัน/ห้องค่ะ โดยจะต้องมีสติ๊กเกอร์จอดรถของทางโครงการด้วยค่ะ ในกรณีนี้ไม่มี จะสามารถจอดรถด้ 18.00 น. เท่านั้น หลังจาก 18.00 ไปแล้วจะต้องเสียค่าปรับค่ะ
จุดนี้น้อง Genie มองว่าค่อนข้างโอเคเลย เพราะว่าเราไม่ต้องกังวลว่าในเวลายามวิกาลจะมีคนเข้ามาแอบจอดรถ หรือ เข้ามาที่โครงการด้วยความไม่ประสงคืดีหรือไม่นั่นเองค่ะ
Lobby
ในส่วนของ Lobby นะคะจะอยู่ที่ชั้น 2 ทางโครงการได้จัดพื้นที่ไว้สำหรับคนพิเศษ หรือแขกคนสำคัญได้นั่งรอ ระกว่างที่มาถึงโครงการค่ะ หรือเวลาที่เรามาติดต่อนิติ ก็สามารถมานั่งรอตรงนี้ได้เลยค่ะ

Facilities
สำหรับทางเข้าโครงการนะคะ จะมีทั้งหมด 2 ทางค่ะ สามารถเข้าทางซอยวิภาวดี 30 และ ซอยพหลโยธิน 21 แต่หากเพื่อนๆ คนไหนที่เดินทางผ่านรถไฟฟ้านะคะ น้อง Genie แนะนำให้เข้าทางซอยพหลโยธิน 21 ค่ะ เพราะออกจาก BTS พหลโยธิน 24 ก็สามารถเดินย้อนมาได้เลย จะเดินเข้าโครงการก็ประมาณ 500 เมตร หรือหากใครไม่อยากเดินก็จะมีพี่วินบริการอยู่ที่หน้าซอยเลยค่ะ เข้าไปโครงการเพียง 10 - 15 บาทเท่านั้น
เมื่อมาถึงที่หน้าโครงการ จะเห็นว่าประตูทางเข้าจะอยู่ด้านหน้า ใกล้ๆ กับพี่ รปภ. เลยค่ะ เราสามารถขึ้นลิฟต์ไปที่ห้องพักอาศัย หรือ ไปยังจุดนั่งรอได้ที่ชั้น 2 ค่ะ
แต่ก่อนที่เราจะสามารถไปยังลิฟต์ หรือ ชั้นพักอาศัยได้นะคะ เราจำเป็นที่จะต้องมีคีย์การ์ดในการเข้าไปยังห้องพักนั่นเองค่ะ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย ไม่ให้คนนอกขึ้นไปตัวอาคารได้นั่นเองค่ะ
ในส่วนของลานจอดรถต้องบอกว่าโครงการนี้ไม่ได้มีที่จอดรถเยอะสักเท่าไหร่นะคะประมาณ 32 คัน แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ สามารถจอดซ้อนคันได้ พี่ๆ รปภ. จัดการให้หายห่วงเลยค่ะ
ที่โครงการจะสามารถจอดรถยนต์ได้ 1 คัน/ห้องค่ะ โดยจะต้องมีสติ๊กเกอร์จอดรถของทางโครงการด้วยค่ะ ในกรณีนี้ไม่มี จะสามารถจอดรถด้ 18.00 น. เท่านั้น หลังจาก 18.00 ไปแล้วจะต้องเสียค่าปรับค่ะ
จุดนี้น้อง Genie มองว่าค่อนข้างโอเคเลย เพราะว่าเราไม่ต้องกังวลว่าในเวลายามวิกาลจะมีคนเข้ามาแอบจอดรถ หรือ เข้ามาที่โครงการด้วยความไม่ประสงคืดีหรือไม่นั่นเองค่ะ
Lobby
ในส่วนของ Lobby นะคะจะอยู่ที่ชั้น 2 ทางโครงการได้จัดพื้นที่ไว้สำหรับคนพิเศษ หรือแขกคนสำคัญได้นั่งรอ ระกว่างที่มาถึงโครงการค่ะ หรือเวลาที่เรามาติดต่อนิติ ก็สามารถมานั่งรอตรงนี้ได้เลยค่ะ

Chateau In Town Vibhavadi 30-2 ตั้งอยู่ ถ. พหลโยธิน แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 ค่ะ โครงการนี้นะคะ อยู่ห่างจาก BTS พหลโยธิน 24 เพียง 500 เมตร เท่านั้นค่ะ ส่วนตัวโครงการอยู่อยู่ในซอยพหลโยธิน 21 ค่ะ ด้านหน้าซอยมีพี่วินบริการค่ะ
โครงการนี้อย่างที่น้อง Genie บอกไปแล้วนะคะว่าสามารถเข้า-ออกได้ทั้งหมด 2 ทาง เข้าทางซอยพหลโยธิน 21 และ ซอยวิภาวดีรังสิต 30 ค่ะ
ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆ โครงการต้องบอกว่าอยู่ใกล้ทั้งห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน และ สถานศึกษาเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น เซ็นทรัล ลาดพร้าว, ยูเนียน มอลล์, เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน , SCB Park, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นต้นค่ะ
ในเรื่องของการเดินทาง อย่างที่น้อง Genie กล่าวไปแล้วว่าโครงการนี้อยู่ใกล้กับ BTS พหลโยธิน 24 ถือว่าสะดวกมากๆ เพราะว่าสามารถเดินได้เพียง 500 เมตรเท่านั้น สำหรับคนที่เดินทางไปทำงานด้วยรถไฟฟ้า ก็สามารถหลีกเลี่ยงรถติดได้เช่นกันค่ะ
หรือสำหรับใครที่เดินทางด้วยรถส่วนตัว น้อง Genie เองก็มองว่าสะดวกเช่นกันค่ะ สามารถใช้ทางด่วนลาดพร้าวเพื่อมายังตัวโครงการ และ สามารถใช้เดินทางไป - มา ได้สะดวกด้วยค่ะ
และน้อง Genie เองก็ไม่พลาดที่จะหาข้อมูล เผื่อสำหรับใครที่ต้องการรู้จักทำเล “วิภาวดี” เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจซื้อ ไม่รอช้า เรามาดูกันดีกว่าค่ะ
ทำความรู้จักทำเล “วิภาวดี”
ย่าน วิภาวดี หรือถนนวิภาวดีรังสิต เป็นหนึ่งในทำเลสำคัญของกรุงเทพฯ ที่เชื่อมต่อโซนใจกลางเมืองกับพื้นที่ชานเมืองตอนเหนือ ทำเลนี้เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยและการลงทุน เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของการเดินทาง มีสถานที่สำคัญหลายแห่ง และเป็นที่ตั้งของสำนักงาน ธุรกิจ และโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
การเดินทางเข้าเมืองที่หลากหลาย เพื่อนๆ สามารถเลือกเดินทางตามสิ่งที่ตัวเองสะดวกได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการใช้รถส่วนตัวเพื่อเดินทางเข้าเมือง หรือแม้แต่รถไฟฟ้า ย่านนี้ก็มีให้เลือกเยอะ เช่นเดียวกันค่ะ
1. การเดินทางโดยรถส่วนตัว
การเดินทางด้วยรถยนต์ในย่านวิภาวดีถือว่าสะดวกมาก เนื่องจากมีถนนสายหลักและทางด่วนรองรับ ได้แก่
- ถนนวิภาวดีรังสิต (ทางหลวงหมายเลข 31) เป็นถนนสายหลักที่เชื่อมต่อโซนกรุงเทพฯ ชั้นในกับย่านชานเมือง และยังสามารถเชื่อมไปยังถนนพหลโยธิน ลาดพร้าว รัชดาภิเษก และดอนเมือง
- ทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วน) สามารถใช้เดินทางเข้าสู่ใจกลางเมือง เช่น อโศก สีลม สาทร ได้อย่างรวดเร็ว
- ดอนเมืองโทลล์เวย์ เหมาะสำหรับเดินทางไปสนามบินดอนเมืองและพื้นที่ตอนเหนือของกรุงเทพฯ
แม้ว่าถนนวิภาวดีรังสิตจะมีปัญหาการจราจรหนาแน่นในช่วงเวลาเร่งด่วน แต่ด้วยตัวเลือกทางด่วนและทางลัดต่างๆ ทำให้ยังคงเป็นย่านที่สะดวกสำหรับการใช้รถยนต์ส่วนตัว
2. การเดินทางโดยรถไฟฟ้า
ปัจจุบันในย่านวิภาวดีมีโครงข่ายรถไฟฟ้าที่ให้บริการและกำลังพัฒนาค่ะ ได้แก่
- รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (SRT Red Line) สถานีหลัก ได้แก่ บางเขน ทุ่งสองห้อง หลักสี่ และดอนเมือง ช่วยให้เดินทางระหว่างโซนชานเมืองกับตัวเมืองได้สะดวกขึ้น และยังสามารถเชื่อมต่อกับ MRT สายสีน้ำเงินที่สถานีบางซื่อ
- รถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) สามารถเชื่อมต่อจากสถานีหมอชิต และเดินทางไปยังวิภาวดีผ่านรถโดยสารหรือแท็กซี่
- โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการเดินทางมากๆค่ะ
วิภาวดี ศูนย์กลางธุรกิจ การเดินทาง และไลฟ์สไตล์
ย่านวิภาวดี ต้องบอกว่าเป็นทำเลสำคัญของกรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยออฟฟิศสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า และโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเลยก็ว่าได้ค่ะ ถือเป็นโซนที่เหมาะกับทั้งการอยู่อาศัยและการทำงาน เรามาดุกันดีกว่าค่ะ ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง
1. ห้างสรรพสินค้า และแหล่งช้อปปิ้งใกล้ย่านวิภาวดี
แม้ว่าถนนวิภาวดีรังสิตเองจะไม่มีห้างขนาดใหญ่ตั้งอยู่โดยตรง แต่สามารถเดินทางไปยังศูนย์การค้าชั้นนำอื่นได้ง่ายมากๆ ค่ะ เช่น
- เซ็นทรัลลาดพร้าว ห้างขนาดใหญ่ที่เป็นแลนด์มาร์คของย่านนี้ มีร้านค้าแบรนด์ดัง ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ และซูเปอร์มาร์เก็ตครบครัน
- ยูเนี่ยนมอลล์ แหล่งช้อปปิ้งแฟชั่นราคาย่อมเยา เหมาะสำหรับวัยรุ่นและสายช้อปที่ชอบของราคาไม่แพง
- เมเจอร์รัชโยธิน ศูนย์รวมโรงภาพยนตร์ ร้านอาหาร และคาเฟ่ อยู่ใกล้แยกรัชโยธิน
- โลตัส ลาดพร้าว ซูเปอร์มาร์เก็ตและแหล่งจับจ่ายใช้สอยขนาดใหญ่
- The Avenue รัชโยธิน แหล่งรวมร้านอาหารและคาเฟ่น่านั่ง
- ตลาดนัดจตุจักร ตลาดนัดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แหล่งรวมของกิน ของใช้ และแฟชั่น
2. ออฟฟิศ และสถานที่ทำงานสำคัญในย่านวิภาวดี
ต้องบอกว่าย่านนี้เป็นที่ตั้งของสำนักงานขนาดใหญ่หลายแห่ง และยังเป็นศูนย์กลางของบริษัทชั้นนำต่างมากมายเลยค่ะ ยกตัวอย่างเช่น
- SCB Park Plaza (ไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่) ศูนย์กลางของธนาคารไทยพาณิชย์
- ตึก Sun Tower เป็นที่ตั้งของสำนักงานธุรกิจหลายแห่ง
- อาคารซันทาวเวอร์ส ที่ตั้งของบริษัทข้ามชาติและองค์กรขนาดใหญ่
- สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส (Thai PBS) สื่อโทรทัศน์ที่ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดี
- สำนักงานใหญ่ ปตท. (PTT Headquarters) สำนักงานใหญ่ของบริษัทน้ำมันและพลังงานแห่งชาติ
- กรมการขนส่งทางบก ศูนย์กลางงานทะเบียนรถและใบขับขี่
- การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (EXAT) หน่วยงานดูแลทางด่วนและโครงสร้างพื้นฐาน
- ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ที่ตั้งของกระทรวงสำคัญหลายแห่ง
ทำไมย่าน "วิภาวดี" ถึงเป็นทำเลศักยภาพ และเป็นที่ต้องการของ Developer สูงมาก?
“ย่านวิภาวดี” เป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงมากในกรุงเทพฯ เนื่องจากว่าเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างใจกลางเมือง กับ โซนชานเมือง และจังหวัดใกล้เคียง
โดยถนนวิภาวดี-รังสิตเป็นเส้นทางสายหลักที่มีการจราจรคึกคักตลอดเวลา เชื่อมโยงไปยังพื้นที่สำคัญต่างๆ ทั้งย่านรัชดา-ลาดพร้าว บางเขน แจ้งวัฒนะ และสนามบินดอนเมือง เพราะฉะนั้นการเดินทางในย่านนี้สะดวกมากๆ
ไม่ว่าจะเป็นการใช้รถยนต์ส่วนตัวที่สามารถเข้าถึงทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ และทางด่วนศรีรัช หรือใช้ระบบขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้าสายสีแดงที่ช่วยให้การเดินทางระหว่างบางซื่อ ดอนเมือง และรังสิตเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงรถไฟความเร็วสูงในอนาคตที่จะทำให้พื้นที่นี้กลายเป็นจุดศูนย์กลางระบบรางที่สำคัญอีกด้วยค่ะ
นอกจากนี้ “ย่านวิภาวดี” ยังเป็นศูนย์กลางของธุรกิจ และ ออฟฟิศขนาดใหญ่ ทำให้เกิดความต้องการที่อยู่อาศัยสูง โดยมีสำนักงานใหญ่ขององค์กรชั้นนำ เช่น SCB Park Plaza, สำนักงานใหญ่ ปตท., อาคารซันทาวเวอร์ส และสถานีโทรทัศน์ Thai PBS ซึ่งมีพนักงานจำนวนมากที่ต้องการที่พักอาศัยใกล้ที่ทำงาน นอกจากนี้ยังใกล้กับศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของกระทรวงและหน่วยงานรัฐหลายแห่ง ทำให้มีผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยในระยะยาวหรือการลงทุนปล่อยเช่า
จากปัจจัยทั้งหมดทั้งมวลนี้ ทำให้ “ย่านวิภาวดี” กลายเป็นพื้นที่ ที่ Dev. ให้ความสนใจเป็นอย่างมากค่ะ อัตราการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในย่านนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้พื้นที่นี้ยังมีศักยภาพเติบโตไปได้อีกมากในอนาคต หากมองหาโอกาสลงทุน วิภาวดีเป็นทำเลที่ควรจับตามองอย่างยิ่ง
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ
ร้านสะดวกซื้อ, ตลาด และ ห้างสรรพสินค้า
- 7-11 : 100 ม.
- Major รัชโยธิน : 1.0 กม.
- Tesco Lotus ลาดพร้าว : 1.3 กม.
- Central ลาดพร้าว : 1.5 กม.
- Union Mall : 2.3 กม.
- Big C ลาดพร้าว 2 : 2.4 กม.
- ตลาดอมรพันธ์ : 2.6 กม.
- Avenue รัชโยธิน : 2.8 กม.
- ตลาดนัดจตุจักร : 3.9 กม.
- The Mall งามวงศ์วาน : 6.8 กม.
โรงพยาบาล
- รพ.เปาโลเกษตร : 2.8 กม.
- รพ.วิภาวดี : 3.9 กม.
สถานศึกษา
รร.หอวัง : 1.1 กม.
ม.เซนต์จอห์น : 1.9 กม.
ม.ราชภัฎจันเกษม : 2.1 กม.
ม.เกษตร : 2.7 กม.
รร.สารวิทยา : 4.2 กม.
รร.สาธิตเกษตร : 4.9 กม.
รร.สาธิตเกษตร : 4.9 กม.
ม.ศรีปทุม : 5.1 กม.
สถานที่ราชการ/ออฟฟิศ
รัชโยธิน ฮิลล์ : 700 เมตร
ตึกช้าง : 850 เมตร
SCB Park Plaza : 1.2 กม
สำนักงานเขตจตุจักร : 2.3 กม.
ศาลยุติธรรม : 4.2 กม.

Chateau In Town Vibhavadi 30-2 ตั้งอยู่ ถ. พหลโยธิน แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 ค่ะ โครงการนี้นะคะ อยู่ห่างจาก BTS พหลโยธิน 24 เพียง 500 เมตร เท่านั้นค่ะ ส่วนตัวโครงการอยู่อยู่ในซอยพหลโยธิน 21 ค่ะ ด้านหน้าซอยมีพี่วินบริการค่ะ
โครงการนี้อย่างที่น้อง Genie บอกไปแล้วนะคะว่าสามารถเข้า-ออกได้ทั้งหมด 2 ทาง เข้าทางซอยพหลโยธิน 21 และ ซอยวิภาวดีรังสิต 30 ค่ะ
ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆ โครงการต้องบอกว่าอยู่ใกล้ทั้งห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน และ สถานศึกษาเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น เซ็นทรัล ลาดพร้าว, ยูเนียน มอลล์, เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน , SCB Park, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นต้นค่ะ
ในเรื่องของการเดินทาง อย่างที่น้อง Genie กล่าวไปแล้วว่าโครงการนี้อยู่ใกล้กับ BTS พหลโยธิน 24 ถือว่าสะดวกมากๆ เพราะว่าสามารถเดินได้เพียง 500 เมตรเท่านั้น สำหรับคนที่เดินทางไปทำงานด้วยรถไฟฟ้า ก็สามารถหลีกเลี่ยงรถติดได้เช่นกันค่ะ
หรือสำหรับใครที่เดินทางด้วยรถส่วนตัว น้อง Genie เองก็มองว่าสะดวกเช่นกันค่ะ สามารถใช้ทางด่วนลาดพร้าวเพื่อมายังตัวโครงการ และ สามารถใช้เดินทางไป - มา ได้สะดวกด้วยค่ะ
และน้อง Genie เองก็ไม่พลาดที่จะหาข้อมูล เผื่อสำหรับใครที่ต้องการรู้จักทำเล “วิภาวดี” เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจซื้อ ไม่รอช้า เรามาดูกันดีกว่าค่ะ
ทำความรู้จักทำเล “วิภาวดี”
ย่าน วิภาวดี หรือถนนวิภาวดีรังสิต เป็นหนึ่งในทำเลสำคัญของกรุงเทพฯ ที่เชื่อมต่อโซนใจกลางเมืองกับพื้นที่ชานเมืองตอนเหนือ ทำเลนี้เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยและการลงทุน เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของการเดินทาง มีสถานที่สำคัญหลายแห่ง และเป็นที่ตั้งของสำนักงาน ธุรกิจ และโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
การเดินทางเข้าเมืองที่หลากหลาย เพื่อนๆ สามารถเลือกเดินทางตามสิ่งที่ตัวเองสะดวกได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการใช้รถส่วนตัวเพื่อเดินทางเข้าเมือง หรือแม้แต่รถไฟฟ้า ย่านนี้ก็มีให้เลือกเยอะ เช่นเดียวกันค่ะ
1. การเดินทางโดยรถส่วนตัว
การเดินทางด้วยรถยนต์ในย่านวิภาวดีถือว่าสะดวกมาก เนื่องจากมีถนนสายหลักและทางด่วนรองรับ ได้แก่
- ถนนวิภาวดีรังสิต (ทางหลวงหมายเลข 31) เป็นถนนสายหลักที่เชื่อมต่อโซนกรุงเทพฯ ชั้นในกับย่านชานเมือง และยังสามารถเชื่อมไปยังถนนพหลโยธิน ลาดพร้าว รัชดาภิเษก และดอนเมือง
- ทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วน) สามารถใช้เดินทางเข้าสู่ใจกลางเมือง เช่น อโศก สีลม สาทร ได้อย่างรวดเร็ว
- ดอนเมืองโทลล์เวย์ เหมาะสำหรับเดินทางไปสนามบินดอนเมืองและพื้นที่ตอนเหนือของกรุงเทพฯ
แม้ว่าถนนวิภาวดีรังสิตจะมีปัญหาการจราจรหนาแน่นในช่วงเวลาเร่งด่วน แต่ด้วยตัวเลือกทางด่วนและทางลัดต่างๆ ทำให้ยังคงเป็นย่านที่สะดวกสำหรับการใช้รถยนต์ส่วนตัว
2. การเดินทางโดยรถไฟฟ้า
ปัจจุบันในย่านวิภาวดีมีโครงข่ายรถไฟฟ้าที่ให้บริการและกำลังพัฒนาค่ะ ได้แก่
- รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (SRT Red Line) สถานีหลัก ได้แก่ บางเขน ทุ่งสองห้อง หลักสี่ และดอนเมือง ช่วยให้เดินทางระหว่างโซนชานเมืองกับตัวเมืองได้สะดวกขึ้น และยังสามารถเชื่อมต่อกับ MRT สายสีน้ำเงินที่สถานีบางซื่อ
- รถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) สามารถเชื่อมต่อจากสถานีหมอชิต และเดินทางไปยังวิภาวดีผ่านรถโดยสารหรือแท็กซี่
- โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการเดินทางมากๆค่ะ
วิภาวดี ศูนย์กลางธุรกิจ การเดินทาง และไลฟ์สไตล์
ย่านวิภาวดี ต้องบอกว่าเป็นทำเลสำคัญของกรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยออฟฟิศสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า และโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเลยก็ว่าได้ค่ะ ถือเป็นโซนที่เหมาะกับทั้งการอยู่อาศัยและการทำงาน เรามาดุกันดีกว่าค่ะ ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง
1. ห้างสรรพสินค้า และแหล่งช้อปปิ้งใกล้ย่านวิภาวดี
แม้ว่าถนนวิภาวดีรังสิตเองจะไม่มีห้างขนาดใหญ่ตั้งอยู่โดยตรง แต่สามารถเดินทางไปยังศูนย์การค้าชั้นนำอื่นได้ง่ายมากๆ ค่ะ เช่น
- เซ็นทรัลลาดพร้าว ห้างขนาดใหญ่ที่เป็นแลนด์มาร์คของย่านนี้ มีร้านค้าแบรนด์ดัง ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ และซูเปอร์มาร์เก็ตครบครัน
- ยูเนี่ยนมอลล์ แหล่งช้อปปิ้งแฟชั่นราคาย่อมเยา เหมาะสำหรับวัยรุ่นและสายช้อปที่ชอบของราคาไม่แพง
- เมเจอร์รัชโยธิน ศูนย์รวมโรงภาพยนตร์ ร้านอาหาร และคาเฟ่ อยู่ใกล้แยกรัชโยธิน
- โลตัส ลาดพร้าว ซูเปอร์มาร์เก็ตและแหล่งจับจ่ายใช้สอยขนาดใหญ่
- The Avenue รัชโยธิน แหล่งรวมร้านอาหารและคาเฟ่น่านั่ง
- ตลาดนัดจตุจักร ตลาดนัดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แหล่งรวมของกิน ของใช้ และแฟชั่น
2. ออฟฟิศ และสถานที่ทำงานสำคัญในย่านวิภาวดี
ต้องบอกว่าย่านนี้เป็นที่ตั้งของสำนักงานขนาดใหญ่หลายแห่ง และยังเป็นศูนย์กลางของบริษัทชั้นนำต่างมากมายเลยค่ะ ยกตัวอย่างเช่น
- SCB Park Plaza (ไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่) ศูนย์กลางของธนาคารไทยพาณิชย์
- ตึก Sun Tower เป็นที่ตั้งของสำนักงานธุรกิจหลายแห่ง
- อาคารซันทาวเวอร์ส ที่ตั้งของบริษัทข้ามชาติและองค์กรขนาดใหญ่
- สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส (Thai PBS) สื่อโทรทัศน์ที่ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดี
- สำนักงานใหญ่ ปตท. (PTT Headquarters) สำนักงานใหญ่ของบริษัทน้ำมันและพลังงานแห่งชาติ
- กรมการขนส่งทางบก ศูนย์กลางงานทะเบียนรถและใบขับขี่
- การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (EXAT) หน่วยงานดูแลทางด่วนและโครงสร้างพื้นฐาน
- ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ที่ตั้งของกระทรวงสำคัญหลายแห่ง
ทำไมย่าน "วิภาวดี" ถึงเป็นทำเลศักยภาพ และเป็นที่ต้องการของ Developer สูงมาก?
“ย่านวิภาวดี” เป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงมากในกรุงเทพฯ เนื่องจากว่าเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างใจกลางเมือง กับ โซนชานเมือง และจังหวัดใกล้เคียง
โดยถนนวิภาวดี-รังสิตเป็นเส้นทางสายหลักที่มีการจราจรคึกคักตลอดเวลา เชื่อมโยงไปยังพื้นที่สำคัญต่างๆ ทั้งย่านรัชดา-ลาดพร้าว บางเขน แจ้งวัฒนะ และสนามบินดอนเมือง เพราะฉะนั้นการเดินทางในย่านนี้สะดวกมากๆ
ไม่ว่าจะเป็นการใช้รถยนต์ส่วนตัวที่สามารถเข้าถึงทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ และทางด่วนศรีรัช หรือใช้ระบบขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้าสายสีแดงที่ช่วยให้การเดินทางระหว่างบางซื่อ ดอนเมือง และรังสิตเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงรถไฟความเร็วสูงในอนาคตที่จะทำให้พื้นที่นี้กลายเป็นจุดศูนย์กลางระบบรางที่สำคัญอีกด้วยค่ะ
นอกจากนี้ “ย่านวิภาวดี” ยังเป็นศูนย์กลางของธุรกิจ และ ออฟฟิศขนาดใหญ่ ทำให้เกิดความต้องการที่อยู่อาศัยสูง โดยมีสำนักงานใหญ่ขององค์กรชั้นนำ เช่น SCB Park Plaza, สำนักงานใหญ่ ปตท., อาคารซันทาวเวอร์ส และสถานีโทรทัศน์ Thai PBS ซึ่งมีพนักงานจำนวนมากที่ต้องการที่พักอาศัยใกล้ที่ทำงาน นอกจากนี้ยังใกล้กับศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของกระทรวงและหน่วยงานรัฐหลายแห่ง ทำให้มีผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยในระยะยาวหรือการลงทุนปล่อยเช่า
จากปัจจัยทั้งหมดทั้งมวลนี้ ทำให้ “ย่านวิภาวดี” กลายเป็นพื้นที่ ที่ Dev. ให้ความสนใจเป็นอย่างมากค่ะ อัตราการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในย่านนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้พื้นที่นี้ยังมีศักยภาพเติบโตไปได้อีกมากในอนาคต หากมองหาโอกาสลงทุน วิภาวดีเป็นทำเลที่ควรจับตามองอย่างยิ่ง
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ
ร้านสะดวกซื้อ, ตลาด และ ห้างสรรพสินค้า
- 7-11 : 100 ม.
- Major รัชโยธิน : 1.0 กม.
- Tesco Lotus ลาดพร้าว : 1.3 กม.
- Central ลาดพร้าว : 1.5 กม.
- Union Mall : 2.3 กม.
- Big C ลาดพร้าว 2 : 2.4 กม.
- ตลาดอมรพันธ์ : 2.6 กม.
- Avenue รัชโยธิน : 2.8 กม.
- ตลาดนัดจตุจักร : 3.9 กม.
- The Mall งามวงศ์วาน : 6.8 กม.
โรงพยาบาล
- รพ.เปาโลเกษตร : 2.8 กม.
- รพ.วิภาวดี : 3.9 กม.
สถานศึกษา
รร.หอวัง : 1.1 กม.
ม.เซนต์จอห์น : 1.9 กม.
ม.ราชภัฎจันเกษม : 2.1 กม.
ม.เกษตร : 2.7 กม.
รร.สารวิทยา : 4.2 กม.
รร.สาธิตเกษตร : 4.9 กม.
รร.สาธิตเกษตร : 4.9 กม.
ม.ศรีปทุม : 5.1 กม.
สถานที่ราชการ/ออฟฟิศ
รัชโยธิน ฮิลล์ : 700 เมตร
ตึกช้าง : 850 เมตร
SCB Park Plaza : 1.2 กม
สำนักงานเขตจตุจักร : 2.3 กม.
ศาลยุติธรรม : 4.2 กม.

โครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ วิภาวดี 30-2 เป็นอาคารสูง 8 ชั้น จำนวน 79 ยูนิต เป็นโครงการแบบ Low Rise ซึ่งโครงการนี้ต้องบอกว่าใครอยากได้ความสงบ หรือความเป็นส่วนตัว โครงการนี้ถือว่าตอบโจทย์มากๆ ค่ะ เพราะว่ายูนิตน้อย ไม่วุ่นวายนั่นเองค่ะ
สำหรับที่จอดรถของโครงการนะคะ น้อง Genie ต้องบอกว่าค่อนข้างน้อยนิดนึงค่ะ จะอยู่ที่บริเวณทางเข้าเลยค่ะ แต่เนื่องด้วยว่าตัวโครงการ และ ทำเลอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีพหลโยธิน 24 อยู่แล้ว กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะใช้บริการ รถไฟฟ้าอยู่แล้วค่ะ
แปลนโครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ วิภาวดี 30-2
ข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ : CHATEAU IN TOWN VIBHAVADI 30-2 (ชาโตว์ อินทาวน์ วิภาวดี 30-2)
ที่ตั้ง : 1, 3 ถ. พหลโยธิน แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
เนื้อที่ : 1 งาน 95.25 ตร.ว.
ลักษณะโครงการ : คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร 79 ยูนิต
จำนวนที่จอดรถ : 40 คัน คิดเป็น 50% (รวมจอดซ้อนคัน)
สถานะโครงการ : สร้างเสร็จพร้อมอยู่
ราคาเริ่มต้น : 2 - 2.75 ล้านบาท
เจ้าของโครงการ : เจ้าพระยามหานคร (CMC)
SEGMENT CLASS : Main Class (รายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่ คลิก)

โครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ วิภาวดี 30-2 เป็นอาคารสูง 8 ชั้น จำนวน 79 ยูนิต เป็นโครงการแบบ Low Rise ซึ่งโครงการนี้ต้องบอกว่าใครอยากได้ความสงบ หรือความเป็นส่วนตัว โครงการนี้ถือว่าตอบโจทย์มากๆ ค่ะ เพราะว่ายูนิตน้อย ไม่วุ่นวายนั่นเองค่ะ
สำหรับที่จอดรถของโครงการนะคะ น้อง Genie ต้องบอกว่าค่อนข้างน้อยนิดนึงค่ะ จะอยู่ที่บริเวณทางเข้าเลยค่ะ แต่เนื่องด้วยว่าตัวโครงการ และ ทำเลอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีพหลโยธิน 24 อยู่แล้ว กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะใช้บริการ รถไฟฟ้าอยู่แล้วค่ะ
แปลนโครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ วิภาวดี 30-2
ข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ : CHATEAU IN TOWN VIBHAVADI 30-2 (ชาโตว์ อินทาวน์ วิภาวดี 30-2)
ที่ตั้ง : 1, 3 ถ. พหลโยธิน แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
เนื้อที่ : 1 งาน 95.25 ตร.ว.
ลักษณะโครงการ : คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร 79 ยูนิต
จำนวนที่จอดรถ : 40 คัน คิดเป็น 50% (รวมจอดซ้อนคัน)
สถานะโครงการ : สร้างเสร็จพร้อมอยู่
ราคาเริ่มต้น : 2 - 2.75 ล้านบาท
เจ้าของโครงการ : เจ้าพระยามหานคร (CMC)
SEGMENT CLASS : Main Class (รายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่ คลิก)

วัสดุภายในห้อง
อย่างที่น้อง Genie บอกไปแล้วนะคะว่า ภายในห้องที่เราเข้าไป รีโนเวทนั้น เราคัดสรรวัสดุที่มีคุณภาพ สามารถใช้งานได้จริง และที่สำคัญมีความสยงามด้วยด้วย
1. โคมไฟระย้าแขวนเพดาน
เอาใจคนรักแสงไฟ ที่มีลวดลายสไตล์โมเดิร์นปรับเอียงได้ ต้องบอกก่อนนะคะว่าน้อง Genie เป็นคนนึงที่ชอบเวลาที่ได้มองดูโคมไฟที่มีลวดลายให้ชวนน่าค้นหา มีความโรแมนติก คิดว่านั่งทานข้าวในร้านอาหารหรูๆ เลยหล่ะค่ะ ^^
2. ท๊อปเคาน์เตอร์ครัว
สำหรับจุดนี้น้อง Genie เอาใจคนชอบทำอาหาร แต่รักความสะอาด และ ชอบคุมโทนค่ะ เพราะท๊อปเคาน์เตอร์ครัวที่น้อง Genie เลือกมานั้น สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย และยังแข็งแรงทนทานอีกด้วยค่ะ
3. spc ลายหินอ่อน
สำหรับ SPC ลายหินอ่อนชุดนี้ที่น้อง Genie นำมาตกแต่งนะคะ ต้องบอกว่านอกจากจะมีความหรูหราและความเป็นธรรมชาติแล้วนั้น ยังมีความคงทน เพราะตัวSPC เป็นวัสดุที่มีความแข็งแรง ทนต่อแรงกระแทก และไม่แตกหักง่ายเหมือนหินอ่อนธรรมชาติ อีกทั้งยังดูแลง่าย ไม่ต้องคอยเคลือบผิวหรือขัดเงาบ่อย ๆ ป้องกันรอยขีดข่วนจากเฟอร์นิเจอร์หรือของมีคมได้ดีนั่นเองค่ะ
4. กั้นห้องกระจกอลูมิเนียม
สำหรับห้องครัวนี้นะคะ ถ้าเพื่อนๆ อ่านมาจนถึงจุดนี้แล้ว จะรู้ว่าเดิมทีของห้องนี้เป็นแบบครัวเปิดนะคะ แต่น้อง Genie ชอบทำอาหาร ทำให้รู้ว่าถ้าเราได้ครัวปิด และมีหน้าต่างระบายกลิ่น มันจะเริ่ดขนาดไหน น้อง Genie เลยเนรมิตร “ฉากกั้นห้องอลูมิเนียม” ที่ดูแล้วไม่เพียงแต่ช่วยแบ่งพื้นที่ใช้งานได้อย่างลงตัวนะค แต่ยังช่วยเพิ่มความหรูหราและโมเดิร์นให้กับตัวห้องอีกด้วย
และด้วยโครงสร้างที่แข็งแรงบวกกับดีไซน์ที่ทันสมัย และความสามารถในการเปิดรับแสงธรรมชาติ ทำให้น้อง Genie ตัดสินใจเลือกมาให้กับทุกคน เพราะมันใช้งานได้จริงในระยะยาวค่ะ

วัสดุภายในห้อง
อย่างที่น้อง Genie บอกไปแล้วนะคะว่า ภายในห้องที่เราเข้าไป รีโนเวทนั้น เราคัดสรรวัสดุที่มีคุณภาพ สามารถใช้งานได้จริง และที่สำคัญมีความสยงามด้วยด้วย
1. โคมไฟระย้าแขวนเพดาน
เอาใจคนรักแสงไฟ ที่มีลวดลายสไตล์โมเดิร์นปรับเอียงได้ ต้องบอกก่อนนะคะว่าน้อง Genie เป็นคนนึงที่ชอบเวลาที่ได้มองดูโคมไฟที่มีลวดลายให้ชวนน่าค้นหา มีความโรแมนติก คิดว่านั่งทานข้าวในร้านอาหารหรูๆ เลยหล่ะค่ะ ^^
2. ท๊อปเคาน์เตอร์ครัว
สำหรับจุดนี้น้อง Genie เอาใจคนชอบทำอาหาร แต่รักความสะอาด และ ชอบคุมโทนค่ะ เพราะท๊อปเคาน์เตอร์ครัวที่น้อง Genie เลือกมานั้น สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย และยังแข็งแรงทนทานอีกด้วยค่ะ
3. spc ลายหินอ่อน
สำหรับ SPC ลายหินอ่อนชุดนี้ที่น้อง Genie นำมาตกแต่งนะคะ ต้องบอกว่านอกจากจะมีความหรูหราและความเป็นธรรมชาติแล้วนั้น ยังมีความคงทน เพราะตัวSPC เป็นวัสดุที่มีความแข็งแรง ทนต่อแรงกระแทก และไม่แตกหักง่ายเหมือนหินอ่อนธรรมชาติ อีกทั้งยังดูแลง่าย ไม่ต้องคอยเคลือบผิวหรือขัดเงาบ่อย ๆ ป้องกันรอยขีดข่วนจากเฟอร์นิเจอร์หรือของมีคมได้ดีนั่นเองค่ะ
4. กั้นห้องกระจกอลูมิเนียม
สำหรับห้องครัวนี้นะคะ ถ้าเพื่อนๆ อ่านมาจนถึงจุดนี้แล้ว จะรู้ว่าเดิมทีของห้องนี้เป็นแบบครัวเปิดนะคะ แต่น้อง Genie ชอบทำอาหาร ทำให้รู้ว่าถ้าเราได้ครัวปิด และมีหน้าต่างระบายกลิ่น มันจะเริ่ดขนาดไหน น้อง Genie เลยเนรมิตร “ฉากกั้นห้องอลูมิเนียม” ที่ดูแล้วไม่เพียงแต่ช่วยแบ่งพื้นที่ใช้งานได้อย่างลงตัวนะค แต่ยังช่วยเพิ่มความหรูหราและโมเดิร์นให้กับตัวห้องอีกด้วย
และด้วยโครงสร้างที่แข็งแรงบวกกับดีไซน์ที่ทันสมัย และความสามารถในการเปิดรับแสงธรรมชาติ ทำให้น้อง Genie ตัดสินใจเลือกมาให้กับทุกคน เพราะมันใช้งานได้จริงในระยะยาวค่ะ

ราคาขายของห้องที่โครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ วิภาวดี 30-2
แน่นอนค่ะว่าเพื่อๆ อ่านมาถึงตรงนี้ก็อยากรู้แล้วใช่ไหมคะ ว่าราคาของทั้ง 2 ห้องราคาเท่าไหร่
ราคาขายของห้องที่โครงการ Chateau In Town Vibhavadi 30-2
ห้องขนาด 37.38 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ตกแต่งจัดเต็มพร้อมเข้าอยู่ ชั้น 2
- ราคาขาย 2,790,000 บาท
ห้องขนาด 37.32 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ตกแต่งจัดเต็มพร้อมเข้าอยู่ ชั้น 7
- ราคาขาย 2,790,000 บาท
ช่วงราคาที่ดีที่สุดของโครงการ 2,000,000 - 2,300,000 ล้านบาท
- ห้องที่บริษัทขายอยู่ในช่วงราคากลาง แต่เดี๋ยวก่อน ทั้ง 2 ห้องนี้ ตกแต่ง เฟอร์ครบ พร้อมลากกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลยทันที!
- ตกแต่งใหม่ทั้งหมดมูลค่ารวมกว่า 250,000 บาท
- รวมส่วนลดพิเศษ Smart TV 43 นิ้ว แอร์ใหม่ 2 ตัว สุขภัณฑ์ห้องน้ำ รวมมูลค่ากว่า 41,000 บาท
- ฟรีทำความสะอาดแบบ Big cleaning
หักส่วนลดและมูลค่าที่ตกแต่งห้องไป 2,790,000 - 250,000 - 41,000 = 2,499,000 ล้านบาทเท่านั้น คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม!!
น้อง Genie เองก็ไม่ลืมที่จะหาราคาเปรียบเทียบเพื่อให้เพื่อนๆ ในมองเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้นค่ะ น้อง Genie เตรียมราคาห้องที่ขายตามสภาพมาให้ดูในช่วงราคาสูง กลาง ต่ำ ไปดูกันเลยดีกว่าค่าาาา
และสำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่เป็นสายลงทุน น้อง Genie ก็ไม่พลาดที่จะเปรียบเทียบราคาปล่อยเช่า ห้องตามสภาพ และ ห้องตกแต่งใหม่ มาไว้เพื่อให้ดูชัดๆ ค่ะ

ราคาขายของห้องที่โครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ วิภาวดี 30-2
แน่นอนค่ะว่าเพื่อๆ อ่านมาถึงตรงนี้ก็อยากรู้แล้วใช่ไหมคะ ว่าราคาของทั้ง 2 ห้องราคาเท่าไหร่
ราคาขายของห้องที่โครงการ Chateau In Town Vibhavadi 30-2
ห้องขนาด 37.38 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ตกแต่งจัดเต็มพร้อมเข้าอยู่ ชั้น 2
- ราคาขาย 2,790,000 บาท
ห้องขนาด 37.32 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ตกแต่งจัดเต็มพร้อมเข้าอยู่ ชั้น 7
- ราคาขาย 2,790,000 บาท
ช่วงราคาที่ดีที่สุดของโครงการ 2,000,000 - 2,300,000 ล้านบาท
- ห้องที่บริษัทขายอยู่ในช่วงราคากลาง แต่เดี๋ยวก่อน ทั้ง 2 ห้องนี้ ตกแต่ง เฟอร์ครบ พร้อมลากกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลยทันที!
- ตกแต่งใหม่ทั้งหมดมูลค่ารวมกว่า 250,000 บาท
- รวมส่วนลดพิเศษ Smart TV 43 นิ้ว แอร์ใหม่ 2 ตัว สุขภัณฑ์ห้องน้ำ รวมมูลค่ากว่า 41,000 บาท
- ฟรีทำความสะอาดแบบ Big cleaning
หักส่วนลดและมูลค่าที่ตกแต่งห้องไป 2,790,000 - 250,000 - 41,000 = 2,499,000 ล้านบาทเท่านั้น คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม!!
น้อง Genie เองก็ไม่ลืมที่จะหาราคาเปรียบเทียบเพื่อให้เพื่อนๆ ในมองเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้นค่ะ น้อง Genie เตรียมราคาห้องที่ขายตามสภาพมาให้ดูในช่วงราคาสูง กลาง ต่ำ ไปดูกันเลยดีกว่าค่าาาา
และสำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่เป็นสายลงทุน น้อง Genie ก็ไม่พลาดที่จะเปรียบเทียบราคาปล่อยเช่า ห้องตามสภาพ และ ห้องตกแต่งใหม่ มาไว้เพื่อให้ดูชัดๆ ค่ะ

โครงการ Chateau In Town Vibhavadi 30-2 แน่นอนว่าเป็นคอนโดเก่า ซึ่งก็จะมีจุดด้อยคือความเก่า แต่ก้จะมีมนต์เสน่ห์ในเรื่องของทำเล และ มีความได้เปรียบเรื่องขนาดห้อง และ ราคาค่ะ
จุดเด่นของโครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ วิภาวดี 30-2
ทำเลศักยภาพ ตั้งอยู่ใกล้ถนนวิภาวดีรังสิต เดินทางสะดวก เชื่อมต่อกับถนนหลักหลายสาย โครงการตั้งอยู่ในซอยวิภาวดีรังสิต 30 ซึ่งเป็นทำเลที่เดินทางสะดวก และใกล้ถนนใหญ่หลายสาย เช่น
ถนนวิภาวดีรังสิต เป็นเส้นทางหลักที่เชื่อมต่อกับใจกลางเมือง และสามารถเดินทางไปสนามบินดอนเมืองได้ง่าย
ถนนพหลโยธิน เชื่อมต่อไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและย่านธุรกิจสำคัญ เช่น อารีย์ และสะพานควาย
ทางพิเศษศรีรัช และดอนเมืองโทลล์เวย์ ช่วยให้การเดินทางไปยังพื้นที่อื่นๆ ของกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นไปอย่างรวดเร็ว
ใกล้แนวรถไฟฟ้า สถานีที่ใกล้ที่สุด ได้แก่ BTS พลหโยธิน 24 , MRT พหลโยธิน และสถานีกลางบางซื่อ ทำให้เดินทางสะดวกทั้งขนส่งมวลชนและรถยนต์
นอกจากนี้ ทำเลนี้ยังใกล้กับสถานที่สำคัญ เช่น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น, เซ็นทรัลลาดพร้าว, ยูเนี่ยนมอลล์, เมเจอร์รัชโยธิน และโรงพยาบาลเปาโล เกษตร
บรรยากาศสงบ
- เป็นคอนโดแบบ Low-Rise สูงเพียงไม่กี่ชั้น ทำให้มีจำนวนยูนิตไม่มาก ไม่แออัด
- ไม่มีตึกสูงบดบังทัศนียภาพ บรรยากาศโดยรอบไม่อึดอัดเหมือนคอนโดไฮไรส์ที่มีตึกสูงติดกัน
- เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ต้องเจอคนพลุกพล่านเหมือนคอนโดขนาดใหญ่
เหมาะสำหรับทั้งอยู่เองและลงทุน
- การอยู่อาศัย โครงการมีขนาดกำลังดี ไม่แออัด มีความเป็นส่วนตัวสูง และอยู่ในทำเลที่สะดวกสำหรับคนทำงานในเมือง
- การลงทุนปล่อยเช่า ด้วยทำเลที่ใกล้ย่านธุรกิจ มหาวิทยาลัย และศูนย์การค้า ทำให้เป็นที่ต้องการของผู้เช่าทั้งกลุ่มนักศึกษา พนักงานออฟฟิศ และคนที่ต้องการเดินทางสะดวก
- ราคาไม่แพงเกินไป เมื่อเทียบกับคอนโดใหม่ในย่านเดียวกัน ทำให้ต้นทุนในการลงทุนต่ำ แต่สามารถปล่อยเช่าได้ในอัตราที่คุ้มค่า
หลายคนคงสงสัยว่า “ทำไมต้องซื้อห้องตกแต่งพร้อมอยู่ของเรา” น้อง Genie จะมาบอกเหตุผลค่าา ^^
👉 ด้วยห้องที่ตกแต่งใหม่ของเราจะเป็น Iconic เฉพาะ ซึ่งถูกออกแบบโดย Interior มืออาชีพของบริษัท จีนี่ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด มีแค่ 1 เดียว และจะไม่ออกแบบซ้ำโดยเด็ดขาด ดังนั้นทั่วทุกมุมห้องของคุณจะมีความเป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะถ่ายรูป ถ่ายวิดิโอลง Social จุดไหน มุมไหนของห้อง ก็จะออกมาาดูดี และ สวยงามแน่นอนค่ะ
👉 หรือสำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่จะสร้างอาชีพ หรือ ทำงานเสริม โดยเฉพาะยุคนี้ที่การ Live Stream ผ่าน Tiktok ,Facebook หรือแม้กระทั่งการถ่ายรูปสินค้าที่ต้องมีฉากสวยๆ ก็สามารถใช้ฉากของห้องตัวเองได้เลย เพราะเรามีการกรุผนัง และ สร้างเอกลักษณ์ให้คุณแล้ว ไม่ต้องไปเสียเงินหมื่น เพื่อเช่าสตูโอถ่ายอีกต่อไป อยู่อาศัยได้ แถมสร้างรายได้ได้ด้วย คุ้มยิ่งกว่าคุ้มค่ะ

โครงการ Chateau In Town Vibhavadi 30-2 แน่นอนว่าเป็นคอนโดเก่า ซึ่งก็จะมีจุดด้อยคือความเก่า แต่ก้จะมีมนต์เสน่ห์ในเรื่องของทำเล และ มีความได้เปรียบเรื่องขนาดห้อง และ ราคาค่ะ
จุดเด่นของโครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ วิภาวดี 30-2
ทำเลศักยภาพ ตั้งอยู่ใกล้ถนนวิภาวดีรังสิต เดินทางสะดวก เชื่อมต่อกับถนนหลักหลายสาย โครงการตั้งอยู่ในซอยวิภาวดีรังสิต 30 ซึ่งเป็นทำเลที่เดินทางสะดวก และใกล้ถนนใหญ่หลายสาย เช่น
ถนนวิภาวดีรังสิต เป็นเส้นทางหลักที่เชื่อมต่อกับใจกลางเมือง และสามารถเดินทางไปสนามบินดอนเมืองได้ง่าย
ถนนพหลโยธิน เชื่อมต่อไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและย่านธุรกิจสำคัญ เช่น อารีย์ และสะพานควาย
ทางพิเศษศรีรัช และดอนเมืองโทลล์เวย์ ช่วยให้การเดินทางไปยังพื้นที่อื่นๆ ของกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นไปอย่างรวดเร็ว
ใกล้แนวรถไฟฟ้า สถานีที่ใกล้ที่สุด ได้แก่ BTS พลหโยธิน 24 , MRT พหลโยธิน และสถานีกลางบางซื่อ ทำให้เดินทางสะดวกทั้งขนส่งมวลชนและรถยนต์
นอกจากนี้ ทำเลนี้ยังใกล้กับสถานที่สำคัญ เช่น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น, เซ็นทรัลลาดพร้าว, ยูเนี่ยนมอลล์, เมเจอร์รัชโยธิน และโรงพยาบาลเปาโล เกษตร
บรรยากาศสงบ
- เป็นคอนโดแบบ Low-Rise สูงเพียงไม่กี่ชั้น ทำให้มีจำนวนยูนิตไม่มาก ไม่แออัด
- ไม่มีตึกสูงบดบังทัศนียภาพ บรรยากาศโดยรอบไม่อึดอัดเหมือนคอนโดไฮไรส์ที่มีตึกสูงติดกัน
- เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ต้องเจอคนพลุกพล่านเหมือนคอนโดขนาดใหญ่
เหมาะสำหรับทั้งอยู่เองและลงทุน
- การอยู่อาศัย โครงการมีขนาดกำลังดี ไม่แออัด มีความเป็นส่วนตัวสูง และอยู่ในทำเลที่สะดวกสำหรับคนทำงานในเมือง
- การลงทุนปล่อยเช่า ด้วยทำเลที่ใกล้ย่านธุรกิจ มหาวิทยาลัย และศูนย์การค้า ทำให้เป็นที่ต้องการของผู้เช่าทั้งกลุ่มนักศึกษา พนักงานออฟฟิศ และคนที่ต้องการเดินทางสะดวก
- ราคาไม่แพงเกินไป เมื่อเทียบกับคอนโดใหม่ในย่านเดียวกัน ทำให้ต้นทุนในการลงทุนต่ำ แต่สามารถปล่อยเช่าได้ในอัตราที่คุ้มค่า
หลายคนคงสงสัยว่า “ทำไมต้องซื้อห้องตกแต่งพร้อมอยู่ของเรา” น้อง Genie จะมาบอกเหตุผลค่าา ^^
👉 ด้วยห้องที่ตกแต่งใหม่ของเราจะเป็น Iconic เฉพาะ ซึ่งถูกออกแบบโดย Interior มืออาชีพของบริษัท จีนี่ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด มีแค่ 1 เดียว และจะไม่ออกแบบซ้ำโดยเด็ดขาด ดังนั้นทั่วทุกมุมห้องของคุณจะมีความเป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะถ่ายรูป ถ่ายวิดิโอลง Social จุดไหน มุมไหนของห้อง ก็จะออกมาาดูดี และ สวยงามแน่นอนค่ะ
👉 หรือสำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่จะสร้างอาชีพ หรือ ทำงานเสริม โดยเฉพาะยุคนี้ที่การ Live Stream ผ่าน Tiktok ,Facebook หรือแม้กระทั่งการถ่ายรูปสินค้าที่ต้องมีฉากสวยๆ ก็สามารถใช้ฉากของห้องตัวเองได้เลย เพราะเรามีการกรุผนัง และ สร้างเอกลักษณ์ให้คุณแล้ว ไม่ต้องไปเสียเงินหมื่น เพื่อเช่าสตูโอถ่ายอีกต่อไป อยู่อาศัยได้ แถมสร้างรายได้ได้ด้วย คุ้มยิ่งกว่าคุ้มค่ะ
เกี่ยวกับผู้เขียน

Paweena
สนใจเรื่องอสังหาริมทรัพย์ และไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิต ชอบออกไปสำรวจสถานที่ ศึกษาทำเลต่างๆ ดูงานสถาปัตยกรรมคอนโด ทุกบทความล้วนถูกกลั่นกรองมาจากความคิดและความรู้สึก พร้อมยินดีรับคำแนะนำ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ใหม่ๆเสมอค่ะ :)