เมทาเวิร์ส (Metaverse) เปลี่ยนอนาคตอย่างไร? (ฉบับเข้าใจง่าย)

สร้างเมื่อ Dec 13, 2021

Genie เชื่อว่า Ready Player One สร้างถูกสร้างขึ้นมื่อหลายปีก่อน น่าจะเป็นหนังดังที่หลายคน ค้นหาเพื่อดูซ้ำอีกครั้ง หรือถูกใส่ไว้ในลิสต์เพื่อดูช่วงวันหยุดสิ้นปีนี้อย่างแน่นอนค่ะ หลังจากมีกระแสข่าวเรื่อง เมทาเวิร์ส (Metaverse) ที่ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (ผู้บริหารของเพจ Facebook) ออกมาประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta ทั้งที่ใช้ Facebook มานานเกือบ 20 ปีแล้วก็ตาม ซึ่งเรื่องนี้ได้สร้างความฮือฮาในวงการโซเชียลมีเดียเป็นอย่างมาก ก่อให้เกิดการตื่นตัวและแรงกระเพื่อมไปยังทุกวงการธุรกิจทั่วโลก และการรีแบรนด์ครั้งนี้มันบ่งบอกถึงวิสัยทัศน์อันแรงกล้าของเขาอย่างชัดเจนให้ทั่วโลกได้รับรู้ว่า “ มาร์กจะไปต่อไม่รอแล้วนะ ”

จุดเริ่มต้นของ เมทาเวิร์ส

หากไล่ต้นกำเนิดแนวคิดของ Metaverse แล้วหล่ะก็ อันดับแรกที่ต้องพูดถึงน่าจะเป็น Snow Crash หนังสือนิยายวิทยาศาสตร์ของนีล สตีเฟนสัน (Neal Stephenson) ค่ะ ที่วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 1992 และต่อมาคือหนังสือนิยายวิทยาศาสตร์เรื่อง Ready Player One ที่ตีพิมพ์เมื่อปี 2011 เนื้อเรื่องสนุกสนานดีงามเข้าตาจน ผู้กำกับมือหนึ่งฉายาพ่อมดแห่งโลกภาพยนตร์อย่าง สตีเวน สปีลเบิร์ก นำมาสร้างเป็นภาพยนต์ฉายในปี 2018 ให้คนทั่วโลกชมกัน รวมถึงยังมีอยู่ในหนังสือการ์ตูนชื่อดังจากค่าย DC Comics ก็เคยพูดถึงเมตาเวิร์สเช่นเดียวกันค่ะ

เมทาเวิร์ส ( metaverse ) คืออะไร

นีล สตีเฟนสัน เจ้าของนิยาย Snow Crash ระบุว่า Metaverse เป็นโลกคู่ขนานโลกเสมือนจริงที่ถูกจำลองขึ้นมาให้มนุษย์ในอนาคตได้เข้าไปใช้ชีวิตในนั้น ซึ่งเมื่ออ้างอิงจากนิยายเรื่องนี้ คุณสมบัติของ Metaverse จะประกอบด้วย 4 เรื่องหลัก ๆ คือ

  • เวลาจะเดินหน้าไปเรื่อย ๆ ไม่หยุด
  • เชื่อมต่อโลกจริงเข้ากับโลกดิจิทัลได้อย่างกลมกลืน
  • ไม่จำกัดผู้เข้าใช้งานแพลตฟอร์ม และสามารถใช้งานได้ในเวลาเดียวกัน
  • สามารถสร้างเศรษฐกิจใหม่เต็มรูปแบบ

ส่วน วิกิพีเดีย บัญญัติคำนี้ว่า จักรวาลนฤมิต ซึ่งรองรับสภาพแวดล้อมเสมือนจริงแบบ 3 มิติในรูปแบบออนไลน์ต่อเนื่องสำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือที่เข้าใจง่ายขึ้นก็คือ โลกเสมือนจริงบนพื้นที่ดิจิทัลอันเกิดจากการรวมกันขององค์ประกอบไป 3 สิ่ง ได้แก่ VR (Virtual Reality) ความจริงเสมือน, AR (Augmented Reality) ความจริงเสริมและอินเทอร์เน็ต นั่นเอง

undefined

จะว่าไปแล้วโรคระบาด-19 น่าจะเป็นชนวนสำคัญที่ส่งผลให้คนทั่วโลกมีวิถีการใช้ชีวิตแนวใหม่ ที่เรียกว่า New Normal หรือ Now Normal ทุกกิจกรรมอยู่บนรูปแบบออนไลน์และใช้โซเชียลกันแทบจะตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้

เหล่าบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างสร้างเมตาเวิร์ส หรือโลกเสมือนจริงของตนเองกันแล้วค่ะในปัจจุบันเพื่อการเชื่อมปฏิสัมพันธ์ของผู้คนให้สมจริงมากยิ่งขึ้น และไม่เป็เพียงนิยายอีกต่อไปแล้วค่ะ

มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ไม่ได้มาเล่นๆนะคะ เท่าที่ Genie ค้นหาข้อมูลพบว่า ก่อนเขาจะเปลี่ยนชื่อบริษัทจาก Facebook มาเป็น Meta เมื่อ 29 ตุลาคม 2564 นั้น ได้มีข่าวความเคลื่อนไหวมากมายที่เกี่ยวข้องกับ การเปลี่ยนโลกแห่งอนาคตครั้งใหม่ของมาร์ก เช่น

10 ก.ย. 2021 มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ได้ปล่อยวิดีโอเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะ ที่ชื่อว่า “Ray-Ban Stories” โดยร่วมมือกับบริษัท Essilor Luxottica ซึ่งแว่นนี้สามารถถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ ฟังเพลง ฟังพอดแคสต์ หรือแม้แต่คุยโทรศัพท์ได้ โดยผู้สวมใส่ไม่ต้องยกสมาร์ตโฟนเพื่อทำสิ่งต่าง ๆ อีกต่อไปเลยค่ะ

27 กันยายน 2564 รอยเตอร์ส รายงานว่า บริษัทเฟซบุ๊ก จะทุ่มทุน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อเป็นพันธมิตรกับองค์กรต่าง ๆ ในการสร้างเมตาเวิร์สอย่างมีความรับผิดชอบ

แว่น Oculus VR ที่ Facebook เข้าซื้อกิจการมาเมื่อปี 2014 ก็ถูกพัฒนาและจำหน่ายมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงพัฒนาชุดหูฟังVR และสายรัดข้อมือเทคโนโลยี ให้ตอบโจทย์กับโลกแห่งอนาคตที่เขากำลังสร้างอยู่นั่นเองค่ะ

undefined

การที่ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ออกมาประกาศความมุ่งมั่นที่จะสร้างโลกอินเตอร์เนตแห่งใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีเชื่อมโยงผู้คนให้เข้าถึงกันเสมือนจริง ( Metaverse ) อย่างสมบูรณ์แบบภายใน 5-10 ปีข้างหน้านี้ ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์แตกต่างกันไป แต่ก็มีอีกหลายบริษัทที่ใช้เมทาเวิร์ส เช่น

  • ซิลิคอน วัลเลย์ บริษัทไอทียักษ์ใหญ่อย่างไมโครซอฟท์ ได้กล่าวถึงว่าเป็นการบรรจบกันระหว่างโลกดิจิทัลและโลกความเป็นจริง
  • เกม Roblox ที่เปิตตัวในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาและได้เรียกตัวเองว่าเป็นบริษัทเมตาเวิร์ส ด้ามเกม Fortnite ของบริษัท Epic Games ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของเมตาเวิร์สเช่นกัน
  • นักดนตรีสามารถจัดคอนเสิร์ตเสมือนจริงได้ภายในแพลตฟอร์มเหล่านี้ ยกตัวอย่างเช่น ในเดือนกันยายน ผู้คนกว่าล้านคนได้รับชมคอนเสิร์ตของนักร้องหญิง Ariana Grande ซึ่งถูกแสดงอย่างเสมือนจริงในเกม Fortnite”
  • บริษัทแฟชั่นที่ใหญ่ที่สุดในโลกเองก็ได้ลองทำเสื้อผ้าเสมือนจริงด้วย ซึ่งร่างจำลองของผู้คนสามารถสวมใส่เสื้อผ้าได้ในโลกเมตาเวิร์ส เป็นต้น

แน่นอนค่ะว่า วงการธุรกิจอสังหาฯ มีความเคลื่อนไหวเช่นเดียวกัน

วงการอสังหาฯ พร้อมลุย Metaverse

undefined

MQDC Corporation บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของไทย จับมือกับ T&B Media Global ร่วมทุ่มทุนสร้าง อาณาจักรโลกเสมือน (Metaverse) "Translucia" ที่เป็นโลกเสมือนสุดจินตนาการขึ้นเป็นรายแรกของไทย โดยเฟสแรกใช้เงินลงทุนจะไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท และจะพัฒนาต่อเนื่องจนสร้างมูลค่าอาณาจักรไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาทเลยหล่ะค่ะ ซึ่งโปรเจกต์แสนล้านนี้ได้ประกาศเป็นทางการ เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา

undefined

และในวันที่ 15-16 ธันวาคมนี้ Translucia Metaverse ร่วมกับพันธมิตร จัดงานฟอรัม Metaverse Unlimited

ที่จะให้คุณเข้าร่วมฟอรัมระดับโลกฟรี! โดยการประชุมครั้งนี้เปิดให้ทุกคนทั่วโลกเข้าร่วมได้ค่ะ สนใจคลิก https://events.translucia.org หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เฟสบุก The Metaverse Thailand ค่ะ ( ขอบอกว่าไม่ควรพลาดนะคะงานนี้ )

undefined

O2E Supply บริษัทฯ รับออกแบบตกแต่งบ้าน เจ้าแรกที่รับทำแบบบ้าน AR และVR เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์ชมบ้านตัวอย่างเสมือนจริงได้ค่ะช่วยให้ผู้ออกแบบและลูกค้าเห็นภาพเดียวกัน เข้าใจตรงกัน ช่วยปิด Job ได้ง่ายขึ้นนั่นเองค่ะ โดยทางบริษัทฯ จะทำบ้านเสมือนจริงให้ดูได้นั้น ลูกค้าต้องให้ไฟล์ภาพ Perspective และไฟล์ CAD ให้กับ O2E เพื่อออกแบบ AR Plan ทำเป็น model ภายนอกให้ดูก่อน และคลิกดู Floor plan ได้ เอากำแพงออกได้ เอาผนังลงได้ เปลี่ยนสีพื้นไม้ได้ และในอนาคตใส่ เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ได้ คนที่อยากทำ AR ใช้ระยะเวลา 3 เดือนได้เห็นแบบค่ะ ส่วน VR คือต้องใส่แว่น VR สามารถดูได้ 360 องศา ระยะเหมือนจริงค่ะและสามารถเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ วัสดุพื้นผิวได้ทั้งหมด

Genie คิดว่าการทำแบบบ้าน AR/VR ช่วยแก้ปัญหาเรื่อง ความสับสน งบบานปลายที่ต้องแก้ไขบิวท์อินต่างๆได้ดีทีเดียวค่ะ เพราะลูกค้าได้ประสบการณ์เสมือนทดลองเข้าอยู่บ้านที่ออกแบบแล้วจริงๆ ช่วยให้ทุกคนเห็นเป็นภาพเดียวกันเสมือนจริงก่อนก่อสร้างหรือตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ ช่วยลดเวลา ลดปัญหาระหว่าง 2 ฝ่ายได้เยอะมากเลย

และส่วนตัว Genie ก็ค่ อนข้างเชื่อมั่นว่าในอนาคตผู้คนจะนิยมใช้งานกันมากขึ้นเนื่องจากด้วยสภาพแวดล้อมทั่วโลกที่เริ่มบิดเบี้ยว สงคราม เศรษฐกิจที่ถดถอย ผู้คนถวิลหาความสุข พบปะผู้คน ในสถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม โดยเฉพาะคนที่ไม่มีโอกาสเดินทางข้ามประเทศก็ได้ประสบการณ์เสมือนว่าเคยไปอยู่ ณ ที่แห่งนั้นจริงๆ มาแล้วโดยไม่ต้องเดินทางไกล หรือจะนัดออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ในมุมที่ห่างไกลของโลกได้ตลอดเวลา การให้ความรู้สึกเสมือนอยู่ด้วยกันจริงๆ มันก็ช่วย Heal หัวใจของใครหลายๆ คนได้บ้างนะคะ

นี่ขนาด Facebook หลายคนยังติดกันงอมแงมไถไปไถมาทั้งวันเลย และถ้าอนาคตเมทาเวิร์ส (Meteverse) เสมือนจริงมากๆ กระทั่งสร้าง กลิ่น ระบบสัมผัสอย่าง เย็น อบอุ่ม ได้หล่ะก็ มีหวังต้องมีคนไม่ยอมออกมาใช้ชีวิตบนโลกแห่งความเป็นจริงแน่ๆ เลยหล่ะค่ะว่ามั้ย ?